วันแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปพบชาวนาที่จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อหาเสียงแบบนักการเมือง นายกรัฐมนตรีพูดว่า วันนี้ คิดว่าเดินทางมาครึ่งทางแล้ว อยู่มา 8 ปี ยังเปลี่ยนได้ไม่หมด ทั้งที่อยากจะเปลี่ยนเป็นร้อยเรื่อง ไม่ใช่ไม่อยากทำ ไม่ใช่ไม่กล้าทำ แต่คือประชาธิปไตย จะทำอะไรต้องฟังความเห็นประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งจะยอมรับ เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 8 ปี แต่บอกว่าเดินมาแค่ครึ่งทาง ยังอยากต่ออีก 8 ปี รวมเป็น 16 ปี เพื่อสร้างสถิตินายกฯที่อยู่นานที่สุดหรือไม่ ทั้งยังอ้างในทำนองว่าทำอะไรมาแล้วมากมาย แต่ไม่ได้ระบุว่าทำอะไรตามสัญญา ที่ว่าจะนำความสุขให้ประชาชน ในเวลาไม่นาน หลังการยึดอำนาจ
นายกรัฐมนตรีประสบความสำเร็จในการขจัดความยากจนให้สิ้นซากรวมทั้งขจัดการทุจริตคอร์รัปชันหรือยัง และประสบความสำเร็จในการปฏิรูปประเทศ ตามสัญญาที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมืองให้เป็น ประชาธิปไตย ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ เศรษฐกิจ ฯลฯ แต่คอร์รัปชันยังเฟื่องฟู
นักวิชาการหลายคนวิจารณ์ว่าการปฏิรูปการเมือง ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการก้าวถอยหลัง รัฐธรรมนูญ 2560 กลายเป็นกลไกหยุดยั้งการพัฒนาของระบอบประชาธิปไตย ประเทศจมปลักอยู่ในระบอบอำนาจนิยมยิ่งขึ้น การปกครองประเทศเน้นการรวมศูนย์ไว้ที่ คสช. เป็นรัฐราชการรวมศูนย์ ลิดรอนเสรีภาพผู้เห็นต่าง
จากการพูดกับชาวนาสิงห์บุรี นายกรัฐมนตรีอ้างว่าเพราะ “ประชาธิปไตย” จึงไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ นับร้อยเรื่อง เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจ “ประชาธิปไตย” อย่างแท้จริง มองว่าประชาธิปไตยเป็นอุปสรรคในการบริหารประเทศ ทั้งๆที่ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ล้วนแต่เป็นประเทศพัฒนา
เห็นได้ชัดว่านายกฯติดยึดระบอบ อำนาจนิยม แต่เคยเป็นนายกฯผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตาม ม.44 นานถึง 5 ปี ก่อนที่จะเป็นนายกฯตามระบบเลือกตั้ง ได้สร้างคุณประโยชน์อะไรบ้าง ผลการสำรวจ ความเห็นประชาชน หรือโพลทุกครั้งที่ผ่านมา นายกฯไม่เคยได้คะแนนนิยมเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งๆที่มีอำนาจที่อาจสร้างผลงานได้
นิด้าโพลครั้งล่าสุด เมื่อเดือนธันวาคม ถามประชาชนว่าสนับสนุนใครเป็นนายกฯ อันดับที่ 1 เชียร์แพทองธาร ชินวัตร 24.18% อันดับที่ 2 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 16.73% อันดับที่ 3 พล.อ.ประยุทธ์ 16.23% นักวิชาการบางคนวิจารณ์ว่า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำที่หมดอายุ จริงหรือไม่จริงต้องดูผลเลือกตั้ง.