สลด สาวสิงห์บุรี เจ๊งหุ้นเครียดป่วยซึมเศร้าหอบลูกสาววัย 8 ขวบ มาอาศัยบ้านน้าสาวเมืองกรุงเก่าเปิดร้านเสริมสวยสู้ชีวิต โดนพิษโควิดซ้ำ 2 รอบ เครียดผูกคอดับคาร้าน
พฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564 เวลา 13.30 น.
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. พ.ต.ท ปริญญา กุลรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุผูกคอภายในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งใน ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านเสริมสวย กลางร้านมีมุ้งแบบกระโจมขนาดใหญ่พร้อมเครื่องนอนและตุ๊กตาวางอยู่ ถัดไปพบศพ น.ส.เนาวรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี สภาพใช้สายไฟผูกคอกับราวระเบียงชั้นลอย ลำตัวห้อยติดอยู่กับกำแพงห้องน้ำใต้บันได จึงนำร่างลงมาด้านล่างตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง โดยมี น.ส.รพีพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี น้าสาวผู้ตาย เจ้าของอาคารนั่งร่ำไห้กอดลูกสาวผู้ตายวัย 8 ขวบอยู่หน้าร้าน
เบื้องต้น น.ส.รพีพรรณ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นหลานสาว มาจาก จ.สิงห์บุรี เมื่อประมาณปี 2563 เคยมาปรับทุกข์ว่านำเงินไปลงทุนหุ้นกับกลุ่มเพื่อน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าลงทุนหุ้นอะไรแล้วขาดทุนหลักแสนบาทจนเครียดป่วยซึมเศร้า จึงชวนให้มาเปิดร้านเสริมสวยหารายที่อาคารตนเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยตนจะพักอยู่ชั้น 3 ส่วนสองแม่ลูกจะกางมุ้งปูที่นอนอยู่ในร้านชั้นล่าง กระทั่ง มาประสบปัญหาแพร่ระบาดโควิด-19 รอบแรกก็ถูกสั่งปิด ก็พอมีเงินเก็บสู้มาได้ จนมาโควิดระลอกใหม่ลูกค้าลดลง พอจะกลับมาก็ต้องขาดรายได้อีก ยิ่งทำให้เครียดและด้วยอาการป่วยซึมเศร้า เวลามีปัญหาอะไรมาปรึกษาตนจะคอยปลอบและให้กำลังใจ ก่อนเกิดเหตุตื่นเช้ามาได้ยินเสียงลูกสาวผู้ตายร้องไม่ยอมหยุด จึงลงมาดูเห็นภาพลูกสาวนั่งอยู่ในมุ้งมองดูศพแม่ร้องไห้ตลอดเวลา จึงรีบอุ้มออกมาหน้าร้านและแจ้งพ่อแม่ผู้ตายที่ จ.สิงห์บุรี ทราบก่อนแจ้งตำรวจตรวจสอบดังกล่าว สันนิษฐานว่าผู้ตายเครียดปัญหาหนี้สิน ประกอบกับป่วยซึมเศร้า ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
100%