หวยก็ไม่ถูก สงกรานต์ก็ไม่ได้เล่น ชาวบ้านแห่แหนไปแทงเลขวัคซีน เวลาฉีด น้ำหนัก ส่วนสูง ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กันอุตลุด แต่โดนกินเรียบ กุมขมับไปตามๆกัน
ข่าวร้ายตามมาติดๆ กระทรวงวัฒนธรรมสั่งห้ามสาดน้ำ–ประแป้ง เทศกาลสงกรานต์
เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ
ล่าสุดคลัสเตอร์ใหม่ที่ตลาดบางแค กทม. ลุกลามกระจายรวดเร็ว น่าห่วง ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง หากระงับยับยั้ง ควบคุมได้ดีทั้งประเทศ อาจมีข่าวดีได้เล่นน้ำสงกรานต์
เหลือบไปดูสถานการณ์การเมืองว่าด้วยปมร้อน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ประเด็นอยู่ที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ระบุรัฐสภามีอำนาจร่างรัฐธรรมนูญ แต่ต้องผ่าน “ประชามติ” ทั้งก่อน–หลัง
วาระ 3 ที่ค้างเติ่งอยู่ แม้จะแค่ “แก้ไขเพิ่มเติม” แต่การเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้นมีผล “ยกเลิก” รัฐธรรมนูญ 2560 ก็เท่ากับการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่
สุดท้ายก็ไม่ได้แก้ ยืดย้วยยาวนานสารพัดลีลาจบด้วยการแหกโค้ง
จับสัญญาณประเมินอาการจาก “ขุมอำนาจทหารเฒ่า 3 ป.” ก็ยักไหล่ไม่สะท้านแรงต้าน มั่นใจเอาอยู่ ทุกอย่างอยู่ในกำมือ ทุบ “หัวโจก 3 นิ้ว” อยู่หมัดหมดแล้ว
แต่ข้อพึงระวัง อย่าทำเกินกว่าเหตุ ล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน จากประเด็นร้อนปนดราม่าจน “โทนี่ คลับเฮาส์” หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงความผิดปกติ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พยายามนำตัวแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ไปตรวจโควิดยามวิกาล
ส่วนการปรับ ครม. “ประยุทธ์ 2/4” ดูเหมือนว่ารัฐบาลทหารเฒ่า 3 ป. จะกำราบอยู่หมัดเช่นกัน
ตอนนี้คลื่นลมสงบ นิ่งเงียบผิดปกติ
โดยเฉพาะ “ค่ายหลวงพ่อป้อม” หลังจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่งรายชื่อไปให้ “บิ๊กตู่” สแกนคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว
ทั้ง “เสี่ยโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทายาทร้านทองใหญ่แห่งเมืองสิงห์บุรี ที่จ่อฟาด รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) “หนูเหน่ง” น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว 5 สมัย เดินพรมแดงมาแลนดิ้งที่เก้าอี้ “เสมา 1” รมว.ศึกษาธิการ ล้วนเป็นสายตรงบ้านป่ารอยต่อฯ
“หนูเหน่ง” มิได้ตีตั๋ว “ครูน้อง” นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ อย่างที่เข้าใจกัน
ทุกอย่างเหมือนจบแต่ยังมีคลื่นใต้น้ำกระเพื่อมเล็กๆ “กลุ่ม กทม.” ในพรรคพลังประชารัฐ ส่งสัญญาณกระตุกผู้ใหญ่ใคร่ครวญการเสนอชื่อ ครม.ประยุทธ์ 2/4 ที่ไม่หลงเหลือโควตา กทม.อยู่เลย
หลัง “บี–ตั้น” นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ หลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรี กลับไม่มีตัวตายตัวแทน รักษาฐานเมืองหลวง ไม่แยแส 8 แสนเสียงของชาวกรุงที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ
ริบโควตา กทม.ที่มี ส.ส.12 คน ยึดโควตา กปปส. ผู้ปวารณาตัวเป็นนั่งร้านให้ขุมข่ายทหารเฒ่า 3 ป.
เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล แถมโดนคดีต้องเข้าคุกเข้าตะราง เจ็บปวดเกินบรรยาย
ตอนนี้ดุลอำนาจภายในพลังประชารัฐถูกคุมเบ็ดเสร็จโดย “พี่ใหญ่บิ๊กป้อม” แต่น้ำหนักเอียงกระเท่เร่ไปทางฝั่ง “3 ช.” ไม่ว่างานบุ๋น–งานบู๊ ตกอยู่ในอาณัติ “3 ช่วย” บริหารจัดการเบ็ดเสร็จ
“ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ รับหน้าเสื่อบริหารไร่กล้วย วางเกมทุกสิ่ง “เจ๊แหม่ม” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน เป็นตัวล่อ-ตัวชน และเป็น “ตัวกัน” เฝ้า “ลุงป้อม” ไม่ให้ก๊วนอื่นเข้าถึงตัว
แว่วว่าเป้าหมายต่อไปคือสอย “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ
เอาให้ร่วงจากเลขาธิการพรรค ในการประชุมใหญ่ประจำปีเร็วๆนี้ อาศัยวาระตั้งกรรมการบริหารพรรคแทน “บี–ตั้น” พ่วงวาระแทรกเปลี่ยนตัว “แม่บ้านพรรค”
ผลักดัน “สันติมะขามหวาน” นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ขึ้นเสียบ กุมอำนาจในพรรคแทน
เป็นเหตุให้ปรับ ครม.งวดนี้ “3 ช.” ที่จ้องเก้าอี้ “ว่าการ” ตาเป็นมันยอม “กลืนเลือด” เป็น “เด็กดี” กบดานอยู่ที่เดิม แลกกับการแช่แข็ง “เสี่ยแฮงค์” ไม่ให้ได้ลืมตาอ้าปาก หาทางเขี่ยตกกระป๋อง
ถึงวันนั้นน่าจับตาว่า “กลุ่มสามมิตร” ของคู่หู “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ–นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่อุ้มชู “เสี่ยแฮงค์” ขึ้นมา จะออกตัวช่วย “น้อง” เหมือนวันวานหรือเปล่า
แต่งานนี้ทุกคนรู้กันหมดแล้ว “พี่เสือ” เดินแรงแทงไม่ยั้ง พร้อมหักทุกคน ทุกค่าย แบบเลือดเย็น
“คลื่นใต้น้ำ” แฝงตัวอยู่ในพลังประชารัฐ ถึงเวลาอาจกลายเป็น “สึนามิ” กวาดทีเดียวพินาศกันหมด
“ลุงตู่–ลุงป้อม” ไม่รู้ว่าเลี้ยงเสือ หรือโดนพี่เสือขี่คออยู่!!!
ทีมข่าวการเมือง
