กรมเจ้าท่า เร่งขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง 2 อำเภอ จ.สิงห์บุรี เตรียมพร้อมรับอุทกภัย เก็บกักน้ำช่วงฤดูแล้ง ไว้ใช้ประโยชน์แก่พื้นที่ด้านการเกษตร พฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 20.36 น.
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าพื้นที่ขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และ ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อบูรณาการเตรียมความพร้อมในเชิงป้องกันเพื่อรับสถานการณ์ช่วงฤดูฝน ให้สอดคล้องกับความต้องการในการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การเกษตร และการรักษาสภาพแวดล้อมทางน้ำตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ
โดยสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 1 เปิดหน่วยปฏิบัติงานขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา ต.น้ำตาล โดยใช้เรือเจ้าท่า ข.11 และเรือเจ้าท่า 211 เป็นเครื่องจักรในการปฏิบัติงาน โดยขุดลอกให้ได้ความกว้างก้นร่อง 35 เมตร ระยะทางประมาณ 1,200 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอกจำนวน 100,000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันทำการขุดลอกได้ระยะทาง 526 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอกจำนวน 44,476 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นผลงาน 44.47% ใช้ระยะเวลาปฏิบัติงาน 120 วัน
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนการขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยา ต.โรงช้าง เพื่อขยายความกว้างของแม่น้ำ แก้ไขปัญหาร่องน้ำตื้นเขิน และช่วยระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก เริ่มขุดลอกตั้งแต่ (กม.ที่ 216+450 ถึง กม.ที่ 216+950) ดำเนินการโดยเรือเจ้าท่า ข.29 และเรือเจ้าท่า 229 เป็นเครื่องจักรปฏิบัติงาน ความกว้างก้นร่อง 35 เมตร ระดับความลึกก้นร่องเท่ากับ -3 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ระยะทาง 500 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอก จำนวน 47,000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันขุดลอกได้ระยะทาง 73 เมตร ปริมาณวัสดุขุดลอก จำนวน 7,177 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นผลงาน 15.27% ใช้ระยะเวลาปฏิบัติงาน 60 วัน
ทั้งนี้ แผนการขุดลอกแม่น้ำเจ้าพระยาพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ถึง จ.พระนครศรีอยุธยา (เฉพาะที่ตื้นเขิน) เป็น 1 ใน 9 แผนงานป้องกันอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างที่กรมเจ้าท่าได้ร่วมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภารกิจการขุดลอกเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ บรรเทาอุทกภัย ขยายความกว้างร่องน้ำ เก็บกักน้ำในช่วงฤดูแล้ง และประโยชน์แก่พื้นที่ด้านการเกษตร ช่วยส่งเสริมการคมนาคมขนส่งในลำน้ำตามภารกิจหลักของกรมเจ้าท่า และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศเพื่อเป็นการเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง ระมัดระวังในการเดินเรือ สวมใส่เสื้อชูชีพตลอดการเดินทางทางน้ำ ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์เร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ หากพบเห็นความไม่ปลอดภัยทางน้ำ สามารถโทรฯแจ้งสายด่วน กรมเจ้าท่า 1199 ตลอด 24 ชม.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
- เห็นด้วย
100%
- ไม่เห็นด้วย
0%