จุดเริ่มต้นในการสร้างโครงการลานกีฬามวยไทย
ด้วยเจตนารมณ์และความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด จึงจัดทำโครงการลานกีฬามวยไทย เพื่อพัฒนาชุมชนให้เป็นสังคมที่น่าอยู่ ภายใต้แนวคิด “องค์กร ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ต้องอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน” ซึ่งที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ ได้สร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมาอย่างมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม พร้อมกับพัฒนาความยั่งยืนครอบคลุม ทั้งด้านการศึกษา ดนตรี และกีฬา อีกทั้งยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนในชุมชน โดยมีบริษัทในเครือทำหน้าที่เป็นแม่ข่ายดำเนินกิจกรรมในภูมิภาคต่างๆ เพื่อสร้างชุมชนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ในปีนี้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัทในเครือทั้ง 10 แห่งทั่วประเทศ ได้ร่วมกับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักมวยขวัญใจคนไทย ก่อตั้งโครงการลานกีฬามวยไทยขึ้นเป็นปีแรก พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์กีฬามวยนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นนวม เป้าเตะ กระสอบทราย และแผ่นยางกันกระแทก ให้กับโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงชุมชนที่อยู่รอบบริษัทในเครือทั่วประเทศกว่า 10 จังหวัด
เปิดประเดิมโครงการที่แรกโดย บริษัท เชียงใหม่เบเวอเรช บริษัทในเครือ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้ชวน “พี่บัวขาว” ฮีโร่มวยไทยขวัญใจเด็กๆ รวมถึงครูมวยจากค่ายบัญชาเมฆ เปิดสอนหลักสูตรศิลปะการป้องกันตัวขั้นพื้นฐานให้กับเยาวชน ที่โรงเรียนวัดเวฬุวัน (สารภีชนานุกูล) จ.เชียงใหม่ และจะขยายลานกีฬามวยไทยต่อไปอีก 9 แห่งใน จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ยังตั้งเป้าขยายกิจกรรมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศ เพื่อให้มี 100 ลานกีฬามวยไทยในอนาคต ทั้งในกรุงเทพฯ, ขอนแก่น, ปทุมธานี, นครปฐม, พระนครศรีอยุธยา, สิงห์บุรี, เชียงราย, มหาสารคาม และสุราษฎร์ธานี
บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยขวัญใจคนไทย จากค่ายบัญชาเมฆ กล่าวว่า “รู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมกิจกรรมกับบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด โดยเข้ามาสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับเยาวชน เพื่อให้เด็กๆ มีความรู้พื้นฐานด้านทักษะมวยไทย สามารถนำไปใช้ป้องกันตัวได้ในอนาคต และโครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดี ที่ช่วยให้เยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะแม่ไม้มวยไทย”
สานความสัมพันธ์ด้วยกีฬามวยไทย
“โครงการลานกีฬามวยไทย” เป็นพื้นที่ที่นำความรู้ไปสร้างความสุขให้คนในชุมชน โดยมุ่งหวังเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและชุมชน รวมถึงสนับสนุนให้เยาวชนและคนในชุมชนหันมาออกกำลังกาย เพื่อให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี ตลอดจนเสริมทักษะวิชาป้องกันตัวให้เยาวชนเอาตัวรอดจากเหตุการณ์อันตรายได้ นอกจากนี้ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรที่ต้องการสร้างสังคมแห่งความสุข เพื่อปรับเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ยั่งยืนต่อไป
คุณประโภชน์ เกิดเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท เชียงใหม่เบเวอเรช จำกัด กล่าวว่า “เชียงใหม่ เบเวอเรช ในฐานะเป็นพลเมืองของ จ.เชียงใหม่ เราเชื่อว่านอกเหนือจากการดำเนินและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงแล้ว เป้าหมายสูงสุดก็คือการได้เห็น “องค์กร ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม มีความสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน โครงการลานกีฬามวยไทยที่จัดขึ้นในปีนี้ เราจึงมุ่งหวังให้เป็นพื้นที่สร้างพลานามัยที่ดีให้แก่คนในชุมชน โดยได้รับความร่วมมือที่ดีจากค่ายบัญชาเมฆ และบัวขาว บัญชาเมฆ พันธมิตรที่ดีของเรา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬามวยไทยที่มาร่วมทำลานกีฬามวยไทย และสอนทักษะศิลปะการป้องกันตัวขั้นพื้นฐานให้แก่เยาวชน เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนหันมาออกกำลังกาย ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และมีความรู้วิชาป้องกันตัวขั้นพื้นฐาน ตลอดจนผลักดันให้พื้นที่ลานกีฬามวยไทยแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่คนในชุมชนได้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างความรักและความสามัคคีให้เกิดขึ้นชุมชน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าหากชุมชนไหนที่เด็ก เยาวชน และประชาชนมีหัวใจรักกีฬา มีความรัก ความสามัคคี สังคมแห่งนั้นก็จะเปี่ยมไปด้วยความสุข และความยั่งยืนอย่างแน่นอน”
ด้านคุณจรัล ถาวร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเวฬุวัน (สารภีชนานุกูล) กล่าวว่า “ขอบคุณบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ และค่ายบัญชาเมฆ ที่เล็งเห็นความสำคัญของศิลปะแม่ไม้มวยไทย และจัดโครงการลานกีฬามวยไทยนี้ขึ้นมา ทำให้เยาวชนในพื้นที่ อ.สารภี ได้เรียนรู้และฝึกฝนศิลปะการป้องกันตัวกับนักมวยมืออาชีพ สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในชีวิตจริง รวมถึงยังเป็นการร่วมกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมอันดีของไทยด้วย”
ลานกีฬามวยไทยเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สร้างความสุขให้กับสังคม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้คนหันมาออกกำลังกายและเข้าถึงกีฬามวยไทยได้ง่ายขึ้น และเป็นแหล่งเรียนรู้ทักษะป้องกันตัวเบื้องต้นที่ช่วยให้เยาวชนและคนในชุมชนมีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง ซึ่งเชื่อว่าหากหลายๆ ภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกันทำโครงการดีๆ สนับสนุนการสร้างพื้นที่ลานกีฬาในเมืองหรือชุมชนเพิ่มมากขึ้น ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนชุมชนให้เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกภูมิภาคให้ดีขึ้นอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมได้อย่างแน่นอน