ชีวิตคนมีขึ้นก็ต้องมีลง…สำหรับชีวิตช่วงนี้ขาขึ้นตลอด แต่เป็นค่าครองชีพต่างหากที่ปรับขึ้นต่อเนื่องยังไม่มีสัญญาณว่าจะลง
เริ่มต้นเดือนกันยายน ค่าใช้จ่ายสำคัญในครัวเรือนหลายรายการปรับขึ้น ทั้งค่าไฟ ค่าแก๊ส LPG ในขณะที่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และสินค้าชนิดอื่นๆได้ปรับขึ้นไปราวสิงหาคม ค่าครองชีพที่สูงขึ้น จนทำให้คณะกรรมการไตรภาคีต้องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเริ่ม 1 ต.ค.นี้ เป็น 328 – 354 บาท/วัน ทีมงาน SPOTLIGHT ลองเทียบเป็น % ก็พบว่า ค่าใช้จ่ายปรับขึ้นในอัตราที่สูงกว่า ฝั่งค่าแรงที่ขึ้นเฉลี่ย 5.02% พูดง่ายๆว่า รายได้ตามไม่ทันรายจ่ายแล้วนั่นเอง
ภาคพลังงาน เป็นต้นทุนสำคัญของราคาสินค้า
8 เดือนแรกของผ่านไปราคาน้ำมันและราคาก๊าซสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในเดือนกันยายนค่าไฟกำลังปรับขึ้นอีก และแรงถึง 18% จากค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.2565 เพิ่มขึ้นอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย จากงวดปัจจุบันเก็บอยู่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย จะส่งผลให้ค่าเอฟทีโดยรวมในเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 มาอยู่ที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อนำไปรวมค่าไฟฐานจะเป็น 4.72 บาทต่อหน่วย แพงขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 4 บาท ไฟฟ้าคือสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตค่าไฟจึงเป็นต้นทุนสำคัญสำหรับประชาชน และ รวมไปถึงภาคธุรกิจด้วย
ซึ่งผลการสำรวจของ สภาอุสาหกรรมแห่งประเทศไทยล่าสุด พบว่า อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ จะมีต้นทุนจากค่าไฟฟ้าคิดเป็น 10-30% จากต้นทุนการผลิตทั้งหมด ดังนั้นการขึ้นค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 ในอัตราที่สูงทันที จะทำให้ผู้ประกอบการต้องมีความจำเป็นจะต้องปรับราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 10% ภายในปลายปีนี้
สินค้าพลังงานอีก 1 รายการที่ปรับขึ้ยวันที่ 1 กันยายนคือแก๊สหุงต้ม หรือ LPG ที่ปรับขึ้น 1 บาท/กก. ส่งผลให้แก๊ส LPG ถังขนาด 15 กก.ขยับจาก 393 บาทต่อถังเป็น 408 บาทต่อถัง โดยเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 15 มิ.ย.ที่กำหนดทยอยปรับขึ้นราคา LPG กก.ละ 1 บาทต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนโดยเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.-1 ก.ย. เพื่อบรรเทาฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องอุดหนุนราคา LPG และน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลจนติดลบหนัก
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. กองทุนน้ำมันยังคงชดเชย LPG เฉลี่ยที่ 7.69 บาทต่อ กก. ซึ่งก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับจากการที่รัฐได้ทยอยขึ้นราคาให้สะท้อนต้นทุน แต่ภาพรวมฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิยังคงติดลบ 119,764 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 78,301 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 41,463 ล้านบาท ส่วนจะมีการปรับขึ้นราคา LPG ต่ออีกหรือไม่คงจะต้องขึ้นอยู่กับ กบง.จะตัดสินใจ”
ที่ผ่านมารัฐได้อุดหนุนราคา LPG ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันฯ โดยตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กก. แต่ต่อมาผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้กองทุนฯ เริ่มมีปัญหาภาระการอุดหนุนที่สูงทำให้ กบง.ได้ตัดสินใจพิจารณาทยอยปรับขึ้นราคา LPG กก.ละ 1 บาท 3 เดือนแรก เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ขึ้นเป็น 333 บาทต่อถัง 15 กก. เดือนพฤษภาคม 2565 ที่ราคา 348 บาทต่อถัง 15 กก. และเดือนมิถุนายน 2565 ราคา 363 บาทต่อถัง 15 กก. และต่อมาจึงขยายกรอบระยะเวลาปรับขึ้นเดือนละ 1 บาทเป็นเวลา 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย. 65)
สินค้าอุปโภคบริโภคทยอยขึ้น
ในรอบ 15 ปีที่เราได้เห็นปรากฏการณ์ผู้ประกอบการ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรวมตัวกันขอปรับขึ้นซองละ 2 บาทจาก 6 บาทเป็น 8 บาทแต่สุดท้าย กระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้ขึ้นได้ 1 บาทเป็น 7 บาทและมีผลไปแล้วในวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อต่างพูดตรงกันถึงต้นทุนการผลิตทุกภาคส่วนที่ปรับขึ้น ทำให้แบกต้นทุนไม่ไหว
นอกจากนี้ในหมวดร้านอาหารสำเร็จรูป จะเห็นว่า มีการติดป้ายขอปรับราคาขึ้นกันถ้วนหน้า เนื่องจากทั้งค่าไฟค่าแก๊ส ค่าแรง และวัตถุดิบต่างๆปรับราคาขึ้น และส่วนมากจะปรับขึ้นเมนูละ 5 -15 บาททีเดียว งานนี้ผู้บริโภคกระทบกันไปเต็มๆ
ค่าแรงขึ้น 5.02% ไม่ทันค่าครองชีพขึ้นแรงกว่า
ค่าใช้จ่ายที่พุ่งต่อเนื่องจำเป็นให้สุดท้ายคณะกรรมการไตรภาคีต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 5.02% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 337บาท/วัน โดยแบ่งเป็น 9 อัตรา ดังนี้
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 354 บาทต่อวัน จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, ระยอง และภูเก็ต
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 353 บาทต่อวัน จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดนนทบุรี, นครปฐม, ปทุมธานี, สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 345 บาทต่อวัน จำนวน 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 343 บาทต่อวัน จำนวน 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 340 บาทต่อวัน จำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี, หนองคาย, อุบลราชธานี, พังงา, กระบี่, ตราด, ขอนแก่น, เชียงใหม่, สุพรรณบุรี, สงขลา, สุราษฎร์ธานี, นครราชสีมา, ลพบุรี และสระบุรี
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 338 บาทต่อวัน จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร, กาฬสินธุ์, สกลนคร, สมุทรสงคราม, จันทบุรี, และนครนายก
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 335 บาทต่อวัน จำนวน 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์, กาญจนบุรี, บึงกาฬ, ชัยนาท, นครพนม, พะเยา, สุรินทร์, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, เลย, พัทลุง, อุตรดิตถ์, นครสวรรค์, ประจวบคีรีขันธ์, พิษณุโลก, อ่างทอง, สระแก้ว, บุรีรัมย์ และเพชรบุรี
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 332 บาทต่อวัน จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ, แม่ฮ่องสอ, เชียงราย,ตรัง, ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, อุทัยธานี, ลำปาง, ลำพูน, ชุมพร, มหาสารคาม, สิงห์บุรี, สตูล, แพร่, สุโขทัย, กำแพงเพชร, ราชบุรี, ตาก, นครศรีธรรมราช, ชัยภูมิ, ระนอง และพิจิตร
- อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 328 บาทต่อวัน จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส, น่าน และอุดรธานี
ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (ECONTHAI)
ให้สัมภาษณ์กับ SPOTLIGHT Exclusive ว่า อุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีต้นทุนค่าแรงคิดเป็นต้นทุนราว 1-2% ยกเว้นบางอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูง เช่นส่งทอ ก่อสร้าง ที่เมื่อค่าแรงขึ้นจะกระทบกับธุรกิจ ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ ค่าแรงจะมีผลให้ราคาสินค้าขึ้นเพียงแค่ 1 -1.5% เท่านั้น
ดอกเบี้ยขาขึ้น
ดอกเบี้นนโยบายของไทยปรับขึ้นไปแล้วในการประชุมกนง. เมื่อ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา 0.25% จาก 0.50 -0.75% แต่ต้องจับตาต่อไปว่าการประชุมที่เหลือของปีนี้ กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหรือไม่ และจะส่งผลให้บรรดาธนาคารพาณิชย์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามเมื่อไหร่ ซึ่งนั่นก็จะยิ่งกระทบกับผู้บริโภคที่มีหนี้สินต้องมีภาระดอกบี้ยที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
จากสภาพเศรษฐกิจ สังคม ในปี2565 นี้สะท้อนได้อย่างชัดเจนถึงความยากลำบาก ในเวลานี้ผู้บริโภคจึงต้องวางแผนทางการเงินของตัวเองและคราอบครัวให้รอบคอบ เพราะสถานการณ์ในอนาคตก็ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน …ชีวิตขาขึ้นแบบนี้ของเราจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากนัก
คลิปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง