ทางหลวงอ่างทอง รวบแรงงานต่างด้าว ขณะกำลังเดินไปจากภาคเหนือเข้าอยุธยา
เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
อ่างทอง – ตำรวจทางหลวงอ่างทอง รวบต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขณะหลังหลบอยู่ในรถยนต์กระบะ ที่ขนมาจากภาคเหนือมุ่งสู่ อยุธยา ส่วนรถยนต์ คนนำทางเผยได้ค่าจ้างนำพา 10,000 บาท
เวลา 17.00 น.วันนี้(13 มี.ค.) พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล สิงห์บุรี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ร่วมกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอ่างทอง บก.ตม.3 ได้ร่วมกันสกัดจับกุมขนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าเมืองได้ที่บริเวณ บริเวณ ทล.334 อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยพบรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่ติดต่อกันมาและรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผค-1136 พิษณุโลก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า และ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 3ฒค-4863 กรุงเทพมหานคร มีน้ำหนักรถยนต์ที่มากกว่าปกติ และขับขี่มาด้วยความเร็ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับรถติดตาม ระยะทางรวมประมาณ 1-2 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม. 1-2 ทล.334 ต.บ้านอิฐ ได้หยุดรถยนต์กระบะ ISUZU D-MAX สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒค-4863 กรุงเทพมหานคร พบคนขับทราบชื่อ นายอณุสร แซ่โซ้ง อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก
ตรวจสอบภายในรถยนต์ พบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งมามาในห้องโดยสารจำนวน 5 คนและท้ายกระบะ 5 คน รวมเป็น 10 คน และได้ทำการหยุดตรวจ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผค-1136 พิษณุโลก พบ นายมงคล แซ่วือ อายุ 17 ปี ชาวบ้าน ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก เป็นผู้ขับขี่รถยนต์นำทาง
โดยนายมงคล ให้การว่า ตนเองได้ขับรถยนต์นำทางนายอณุสร ซึ่งบรรทุกแรงงานต่างด้าวมาจำนวน 10 คน จากภาคเหนือ และโดยได้ค่าจ้าง จำนวน 10,000 บาท เบื้องต้นได้มาแล้วจำนวน 5,000 บาท เพื่อไปส่งปลายทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตนเองจะคอยตรวจดูเจ้าหน้าที่ตำรวจและโทรศัพท์บอกให้นายอนุสรณ์ ที่ตามมาห่าง ๆ ก่อนโดนจับกุม
จาการสอบถาม พม่าที่ลักลอบเข้าเมือง เล่าให้ฟังว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินเท้าข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทยโดยต้องจ่ายค่านายหน้าเป็นเงินคนละประมาณ 20,000 บาท จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับ ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงอ่างทอง และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป