วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
‘บิ๊กตู่’ปรับแผนกระจายวัคซีน
ชะลอ‘หมอพร้อม’
เน้นยอดผู้ติดเชื้อ-กลุ่มเสี่ยงสูง
จองคิวผ่านแอปฯแต่ละจังหวัด
ยึดโมเดล‘กทม.-นนท์-ภูเก็ต’
สั่งลุยมิถุนายนฉีด6-8ล้านโดส
ลั่นไทยต้องขึ้นอันดับ2อาเซียน
เซ่นโควิดตายพุ่ง41ป่วย2,455คน
โควิดแผลงฤทธิ์แรงวันเดียวตายทะลุ 41 ราย ติดเชื้อ 2,455 ราย สถานการณ์ระบาดไทยคงที่พบคลัสเตอร์ใหม่ดอนสัก-สะพานเหล็ก ผวาอัตราเสียชีวิตของกรุงเทพฯแซงค่าเฉลี่ยประเทศ นายกฯสั่งชะลอลงทะเบียนระบบหมอพร้อม ให้ไปใช้ระบบหน้าด่านของพื้นที่แต่ละจังหวัดแทน หรือจะเดินไปลงทะเบียนที่รพ.–แจ้งอสม.ยังได้ ย้ำไทยต้องฉีดวัคซีนให้ได้เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน สั่งลุยฉีด 6-8 ล้านโดสให้ได้ภายในสิ้นมิถุนายน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันประเทศให้ผ่านวิกฤติไปด้วยกัน
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า ไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,455 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,960 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,210 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 750 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 479 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 137,894 ราย หายป่วยสะสม 91,765 ราย เฉพาะวันนี้หายป่วย 2,571 ราย อยู่ระหว่างรักษา 45,256 ราย อาการหนัก 1,210 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 402 ราย
ยอดตายนิวไฮวันเดียว41สะสม873
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับผู้เสียชีวิตมีเพิ่มเติม 41 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขนิวไฮ เป็นชาย 25 ราย หญิง 16 ราย อยู่ใน กทม. 16 ราย สมุทรปราการ 7 ราย นนทบุรี 3 ราย ชลบุรี ปทุมธานี จังหวัดละ 2 ราย สิงห์บุรี สุโขทัย อุดรธานี นราธิวาส เลย สกลนคร นครสวรรค์ ปราจีนบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช สมุทรสาคร จังหวัดละ 1 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไตเรื้อรัง โรคหัวใจ ปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อจากคนในครอบครัว เดินทางไปในพื้นที่ระบาด รวมถึงไปในที่คนหนาแน่น โต๊ะสนุกเกอร์ สนามวัวชน จึงขอเน้นย้ำในบางจังหวัดที่อนุญาตให้สถานที่เหล่านี้เปิดได้แล้วว่ามีความเสี่ยง เพราะมีผู้เสียชีวิตจากตรงนี้แล้ว และจากข้อมูลพบว่าระยะเวลาทราบผลถึงวันเสียชีวิตนานสูงสุด 69 วัน ทำให้เห็นว่าระยะเวลารักษานานขึ้น อาจเพราะความสามารถยื้อชีวิตหรือเป็นเพราะเชื้อโรค ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 873 ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 168,514,195 ราย เสียชีวิตสะสม 3,499,434 ราย
กทม.ยังติดอสูงสุด-จับตาชายแดน3ปท.
ส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 16 ราย ในจำนวนนี้มี 1 ราย ข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ เป็นชาวเมียนมา ตนขอตำหนิขณะนี้บุคคลดังกล่าวถูกกักตัวอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำหรับ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 26 พฤษภาคม ได้แก่ กทม. 975 ราย เพชรบุรี 259 ราย นนทบุรี 122 ราย สมุทรปราการ 100 ราย และปทุมธานี 61 ราย ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ มี 16 จังหวัด ซึ่งหลายวันที่ผ่านมามีจำนวนมากกว่านี้ แสดงให้เห็นว่าแม้พื้นที่ที่ไม่มีการระบาดก็ยังระบาดเพิ่มขึ้นได้ นอกจากนี้ ที่ประชุม ศปก.ศบค.สรุปสถานการณ์ระบาดทั่วโลกภาพรวมลดลง ขณะที่ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง แนวโน้มคงตัว ทั้งกทม. ปริมณฑลและต่างจังหวัด ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนต่อเนื่องจากกลุ่มเดิม มีโอกาสพุ่งสูงขึ้นหากเราค้นหาเชิงรุกมากขึ้น รวมถึงยังพบผู้ติดเชื้อผ่านชายแดนของประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะชายแดนที่ติด 3 ประเทศคือ กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมา ที่ต้องให้ความสำคัญสูงมาก
ผวากทม.ตายม.สะสมสูงกว่าค่าเฉลี่ยปท.
“สถานการณ์ในกทม. กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อยังทแยงสูงขึ้น ที่สำคัญคือ ผู้เสียชีวิตวันที่ 26 พฤษภาคมมีถึง 16 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน-26 พฤษภาคม 365 ราย หรือคิดเป็น 1% ของผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่กทม.ที่มี 36,542 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลางของผู้เสียชีวิตของประเทศที่มีเพียง 0.71% อย่างไรก็ตาม ลักษณะคลัสเตอร์ของ กทม. มีแนวโน้มยังพุ่งขึ้น ขณะนี้กทม.พบการระบาด 38 คลัสเตอร์ และมี 5 คลัสเตอร์ใหม่คือ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งบนถนนลาดพร้าว โรงงานเย็บผ้า เขตยานนาวา ตลาดแห่งหนึ่ง เขตหนองจอก เคหะแห่งหนึ่ง แขวงคลองจั่น และแคมป์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง เขตสวนหลวง ส่วนคลัสเตอร์ที่ควบคุมได้แล้วก็ยังต้องระวัง”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
จับตา2แหล่งใหม่“ดอนสัก-สะพานเหล็ก”
และเปิดเผยอีกว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค.ได้สรุปการระบาดที่พบในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นที่เป็นคลัสเตอร์ใหม่คือ พื้นที่ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เป็นโรงงานอาหารแช่แข็ง พบผู้ติดเชื้อ 11 ราย และคลัสเตอร์สะพานเหล็ก กทม. มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย ขณะที่คลัสเตอร์อื่นต้องจับตาคือ ชุมชนในตากใบ จ.นราธิวาส ที่มีบางรายเป็นเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้
ศบค.ชะลอจองคิวผ่าน‘หมอพร้อม’
นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า วันเดียวกันนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.) ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค.รับคำสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค.ประชุมเรื่องวัคซีน 2 ประเด็นคือ เรื่องการลงทะเบียน และแผนแจกจ่ายวัคซีน โดยปรับแผนการลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนใหม่เพิ่มเติม จากเดิมใช้ระบบหมอพร้อม ขณะนี้ขอให้ชะลอการลงทะเบียนด้วยระบบหมอพร้อมไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาหมอพร้อมเป็นระบบลงทะเบียนใน 3 ข้อหลักคือ ลงทะเบียน ติดตามการฉีดวัคซีนเข็ม 1-2 รวมทั้งผลข้างเคียง และออกใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ครบถ้วน ตอนนี้ให้หมอพร้อมทำงานสองข้อหลังคือ ติดตามการฉีดวัคซีนและเรื่องออกใบรับรองการฉีดวัคซีน
ให้จว.เป็นด่านหน้ารับลงทะเบียน
ส่วนระบบการลงทะเบียนนั้น ขอให้มีทางเลือกกับประชาชน เช่น มีแอปพลิเคชั่นเฉพาะของจังหวัด อาทิ ภูเก็ต หรือกทม.ที่วันที่ 27 พฤษภาคม เวลา 12.00 น.ได้ขออนุมัตินายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.แล้ว ที่จะเปิดการลงทะเบียนเป็นการเริ่มต้น เนื่องจากกทม.มีประชาชนจำนวนมาก จึงจะมีระบบของกทม.โดยเฉพาะหรือที่จ.นนทบุรีจะมีระบบของตัวเอง ถือเป็นหน้าด่านลงทะเบียนของประชาชนเป็นการอำนวยความสะดวก ไม่เป็นคอขวดเหมือนเช่นเดิม
ยัน2กลุ่มหลักได้รับวัคซีนลำดับต้นๆ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทะเบียนกับระบบหมอพร้อมโดยเฉพาะสองกลุ่มหลักคือกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มเป็น 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ยังยืนยันว่าได้ลงทะเบียนไปแล้วอยู่ในระบบหมอพร้อม ซึ่งจะได้รับวัคซีนช่วงเวลาที่เหมาะสม ขึ้นกับจำนวนวัคซีนที่นำเข้ามา และจะให้เป็นลำดับต้นๆ เพราะถือว่าทุกคนให้ความร่วมมือแจ้งความประสงค์ฉีดวัคซีน แต่ทั้งหมดทั่วประเทศข้อมูลจะลงมาอยู่ที่ทีมงานหมอพร้อม ทั้งนี้ เลขาธิการ สมช.ในฐานะผอ.ศปก.ศบค.ยืนยันว่า ทีมงานหมอพร้อมเข้าใจระบบดี และการดำเนินการที่ผ่านมาก็เป็นประโยชน์ และยังดำเนินการเช่นเดิม เพียงแต่ขยับมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเก็บข้อมูล ส่วนด่านหน้าคือ การรับการลงทะเบียนนั้นแต่ละจังหวัดจะเอาโมเดลของ กทม. นนทบุรีหรือภูเก็ตไปใช้ในพื้นที่ของตัวเองก็ได้ หรือจะไปที่โรงพยาบาลหรือพบอสม. ยังใช้ได้ทุกระบบในการเข้ามารับวัคซีน
นายกฯสั่งปรับแผนกระจายวัคซีน
สำหรับแผนแจกจ่ายวัคซีน นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งให้เลขาธิการ สมช.ในฐานะผอ.ศปก.ศบค. ประชุมกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมควบคุมโรค โดยปรับแผนกระจายวัคซีนใหม่จากเดิมจัดสรรวัคซีนตามโควตาการจอง ปรับมาเป็นการจัดสรรให้เข้าสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์อื่นขึ้นมาในเรื่องกระจายวัคซีน เช่น ใช้เกณฑ์การติดเชื้อ อย่างจ.เพชรบุรีมีการติดเชื้อในกลุ่มคนมากกว่า 2,000ราย ต้องจัดสรรโควตาวัคซีนเพิ่มเพื่อการควบคุมโรค ดังนั้น อัตราการติดเชื้อหากมีความรุนแรงรายวันต้องนำมาคิดคำนวณด้วย
ยึดเกณฑ์ระบาด/กลุ่มเสี่ยง/ศก./ท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังต้องคิดในแง่เศรษฐกิจ สังคม ท่องเที่ยวที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อน ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ต้องนำมาพิจารณาด้วยรวมทั้งกลุ่มเสี่ยงต่างๆ เช่น แรงงานในแคมป์ต้องได้รับวัคซีนกลุ่มเฉพาะขึ้นมา อย่างที่กระทรวงคมนาคมได้ฉีดวัคซีนให้กลุ่มขับรถสาธารณะที่สถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นการปรับเปลี่ยน ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยก็จะรับผู้แจ้งความจำนงฉีดวัคซีน โดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจะฉีดให้กับกลุ่มเฉพาะถ้าจะเปิดภาคการเรียนขึ้นมา ดังนั้น แผนแจกจ่ายวัคซีนจะถูกปรับใหม่โดยใช้หลายเกณฑ์ จึงขอแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. รับทุกข้อเสนอและนำมาสู่การจัดสรรวัคซีนใหม่ โดยมอบให้ผอ.ศปก.ศบค.ดูในรายละเอียดและพื้นที่แต่ละจังหวัด ยืนยันว่าเราพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศและการขับเคลื่อนต่อไป
แจงปมชาย61ศรีสะเกษดับไม่ปกปิดข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีผู้เสียชีวิตรายหนึ่งที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ และนำศพมาเผาทันทีที่วัดแห่งหนึ่งในเทศบาลเมืองศรีสะเกษ มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสวมชุด PPE ขณะที่มีรายงานว่าชายคนดังกล่าวเสียชีวิตด้วยอาการโรคปอดติดเชื้อจากแบคทีเรีย ถือเป็นการจงใจปกปิดข้อมูล เพื่อให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดต่ำกว่าข้อเท็จจริงหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข สั่งให้ตรวจสอบด่วน จากรายงานไม่มีการปกปิดข้อมูลเสียชีวิต ตนได้รับรายงานจากนพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ แจ้งว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยรายที่ 70 ของ จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ป่วยโควิดชายไทยอายุ 61 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่อ.เมืองศรีสะเกษ โดยชี้แจงก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสะเกษตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน ผลการรักษาหายจากโควิดล้วมีผลตรวจเป็นลบไม่มีเชื้อ และย้ายออกมารักษาต่อในโรงพยาบาล เพราะมีอาการปอดติดเชื้อแทรกซ้อนซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรีย และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมเพื่อไม่ประมาทโรงพยาบาลจึงป้องกันโดยให้ดำเนินการกับผู้ที่เสียชีวิตรายดังกล่าวเหมือนผู้เสียชีวิตที่เป็นโควิด จึงเกิดภาพดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งเมื่อตรวจสอบและรายงานมาแล้วว่าเป็นการเสียชีวิตจากปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียร่วมกับติดเชื้อโควิด เรื่องนี้จะเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการวิชาการของกรมควบคุมโรค เพื่อตัดสินว่าจะมีการใช้รายงานว่าเป็นการเสียชีวิตจากการติดเชื้อของ โควิด-19 หรือไม่ ซึ่งระบบรายงานจะทำให้ถูกต้องต่อไป ยืนยันว่าไม่มีการปกปิดข้อมูล
นายกฯยันไทยต้องฉีดวัคซีนที่2อาเซียน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ตนประกาศให้การ “ฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ”และช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลระดมฉีดวัคซีนให้บุคลากรแพทย์ สาธารณสุข อสม. ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและมีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัวตามจำนวนวัคซีนที่เข้ามา ทั้งนี้ จากรายงานล่าสุดเมื่อ 25 พฤษภาคมไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้วถึง 3,024,313 โดส เป็นอันดับ 5 ของอาเซียนและจะเลื่อนขึ้นเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ด้วยการระดมฉีดวัคซีนอีก 6-8 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อมแล้วกว่า 7,931,765 ล้านด้วย ทั้งนี้ ตนสั่งให้ทุกหน่วยร่วมมืออำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนที่พร้อม และลงทะเบียนผ่านช่องทางต่างๆตามสะดวก เพื่อขอรับวัคซีน ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย เพื่อร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ ควบคู่ไปกับการปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุข เชื่อว่าไทยจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน
หนุนใช้ฟ้าทะลายโจรคู่กับยาฟาวิพิราเวีย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายกฯสนับสนุนการใช้ ฟ้าทะลายโจรควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีภาวะอักเสบ ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าฟ้าทะลายโจร ไม่มีฤทธิ์ป้องกันโควิด แต่อาจใช้ปรับระบบภูมิคุ้มกันได้ แต่มีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) สารสำคัญมีฤทธิ์ต้านไวรัส จากการวิจัยยังพบว่าฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัวในหลอดทดลองได้ด้วย นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจร ยังเป็นยาลดไข้ บรรเทาอาการหวัดที่ดีและลดการอักเสบ โดยได้ใช้เป็นยาในบัญชียาหลักในการรักษาโรคหวัดตั้งแต่ปี 2559 และสำหรับผู้ติดเชื้อโควิดที่มีภาวะอักเสบ ฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยกำลังศึกษาวิจัยเพิ่มเติมการใช้ “ฟ้าทะลายโจร” เพื่อป้องกันโควิด-19 อีกด้วย
บำราศฯรับเข้าใจผิดยันฉีดวัคซีนตามแผน
ด้านนพ.กิตติ์พงศ์ สัญชาติวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสถาบันบําราศนราดูรเปิดเผยว่า จากกรณีที่บำราศนราดูรออกประกาศว่าจะเลื่อนฉีดวัคซีนของผู้จองคิวเดือนมิถุนายนออกไปเป็นเดือนกรกฎาคมนั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของผู้ปฏิบัติงานของเราเอง อย่างไรก็ตาม วันนี้ (26 พ.ค.) สถาบันบําราศฯออกประกาศใหม่ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของสถาบันบําราศฯเป็นไปตามปกติ ผู้ที่ลงทะเบียนหมอพร้อมจองคิวฉีดตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไปนั้น สามารถมาฉีดวัคซีนได้ตามนัดหมาย ส่วนจะเป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า และซิโนแวคนั้น แล้วแต่จ.นนทบุรี หรือกรมควบคุมโรคจะส่งวัคซีนมาให้ สถาบันบําราศนราดูรเป็นหน่วยปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบการฉีดวัคซีน ภายใต้กรมควบคุมโรคและจังหวัดนนทบุรีเท่านั้น
แอสตราฯ9ลอตตรวจคุณภาพผ่าน
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รับตัวอย่างวัคซีนแอสตราเซเนกา (Astrazeneca) รุ่นที่ผลิตในประเทศไทย 9 ลอตการผลิตเข้ามาตรวจสอบคุณภาพ ลอตการผลิตวัคซีน ซึ่งผลตรวจสอบผ่านการรับรองไปแล้ว โดย 9 รุ่นการผลิตนี้มีทั้งรุ่นการทดลอง และรุ่นการผลิตใช้จริงในคน ฉะนั้นใน 9 รุ่นการผลิตนี้ไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แต่คิดว่ามีมาก นอกจากนี้ วันที่ 25 พฤษภาคมได้ส่งตัวอย่างวัคซีนแอสตราฯ จากอีก 5 รุ่นการผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์เข้ามาตรวจสอบคุณภาพเพิ่มเติม ปกติจะใช้เวลาตรวจสอบ 3 วันก็ทราบผล
“9 รุ่นการผลิตนั้น เรียบร้อยดีไม่มีปัญหา แต่ในหลักการคือ ตรวจคือตรวจ เหมือนก่อนหน้านี้ที่เรานำเข้าวัคซีนของแอสตราฯมาที่ตรวจสอบคุณภาพการผลิตเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะนำของออกไปได้ใช้เวลาประมาณ 10 วันจะกระจายไปฉีดได้ เพราะโรงงานไหนผลิตก็ตามต้องเอาเอกสารกระบวนการผลิตทั้งหมดมาตรวจสอบ ดูคุณภาพ จากนั้นเราใช้เวลาตรวจสอบเทียบเคียงอีกประมาณครึ่งวัน ถ้าตรงกันก็ออกรับรองลอตรีลิสต์ให้และส่งได้ วัคซีนซิโนแวคก็เหมือนกัน ที่เขาส่งวัคซีนมาตรวจก่อน แล้วส่งเอกสารมาทีหลัง” นพ.ศุภกิจ กล่าว และว่า ทางบริษัทแอสตราฯยืนยันจัดส่งให้ตามแผนเดือนมิถุนายน
เรือนจำติดเพิ่ม1,243ตายอีก3
นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) เผยสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูลถึงวันที่ 26 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 1,243 ราย รักษาหาย 13 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 17,138 ราย และตรวจพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดสงขลาเพิ่ม 1 แห่ง รวมเรือนจำที่ยังมีผู้ติดเชื้อ 14 แห่ง ดังนี้ เรือนจำกลางคลองเปรม มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดใหม่ 328 ราย เรือนจำพิเศษธนบุรีมีผู้ต้องขังติดเชื้อใหม่ 486 คน เรือนจำจังหวัดนนทบุรีติดเชื้อใหม่ 412 คน เรือนจำจังหวัดสงขลา ติดเชื้อใหม่ 16 คน เรือนจํากลางเชียงใหม่ ติดเชื้อใหม่ 1 คน
ดันฉีดวัคซีน-ตั้งรพ.สนามเพื่อคนพิการ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมตั้งโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์ สิรินธร เพื่อคนพิการที่จ.ปทุมธานีว่า ได้ติดตามให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้พิการ ในฐานะหน่วยงานสำคัญที่เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งมีกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)เป็นเลขานุการ โดยคณะกรรมการฯมีมติหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นศปก. ศบค.ช่วยจัดลำดับความสำคัญการได้รับวัคซีนให้ผู้พิการทั่วประเทศให้ต่อจากผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรค เพราะผู้พิการจำนวนหนึ่งอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรค แต่ยังมีอีก 800,000 คนทั่วประเทศที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ และควรได้รับการฉีดวัคซีนในลำดับต้น วันนี้สนับสนุนให้ตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อคนพิการ ตั้งเป้าจะเปิดให้บริการวันที่ 1 มิถุนายน โดยที่นี่จะเป็นต้นแบบดำเนินการต่อไป