วันอังคาร ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 21.36 น.
17 พฤษภาคม 2565 นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมด้วย นายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พ.อ.ชายธนัญชา วาจรัต รอง ผอ.รมน.สิงห์บุรี นายกู้เกียรติ นิ่มเนียม ท้องถิ่นจังหวัดสิงห์บุรี นายบำรุง แสงพันธุ์ ผอ.สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สิงห์บุรี นายสมบูรณ์ สุนทรศาสตร์ อุตสาหกรรม จ.สิงห์บุรี นางอรุณี จุลเจริญ นายอำเภอค่ายบางระจัน นายประเสริฐ ธรรมศิริกาชัย นายกเทศมนตรีตำบลโพสังโฆ นายทินกร สุขเอี่ยม นายก อบต.โพสังโฆ นางวันดี วิรัสสะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสิงห์บุรี และฝ่ายปกครองอำเภอค่ายบางระจัน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณี โรงงานไข่เค็มนำน้ำเสียและของเสียลงบ่อบำบัดน้ำเสียของตนในพื้นที่ หมู่ 13 ต.โพสังโฆ อ.ค่ายบางระจันซึ่งเป็นที่ดินของผู้ประกอบการเอง ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนประชาชนในบริเวณใกล้เคียง
จากการตรวจสอบพบน้ำในบ่อส่งกลิ่นเหม็นและพบเปลือกไข่ถูกนำมาทิ้ง จึงได้สร้างความเข้าใจระหว่างผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ โดยมีข้อสรุปว่า ผู้ประกอบการจะดำเนินการสูบน้ำเสียออกจากบ่อและจะไม่นำน้ำและเปลือกไข่มาทิ้งในบริเวณดังกล่าวอีก โดยจะทำการโรยปูนขาวเพื่อกลบกลิ่นในเบื้องต้น และใช้ EM เพื่อรักษาคุณภาพดิน แล้วห้ามกระทำการเช่นนี้อีก แม้จะเป็นที่ดินของตนเองก็ตามเพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้อื่น และควรเห็นใจผู้ประกอบการ อย่าปิดประตูกั้นโอกาสเพราะว่าจะทำให้ผู้ประกอบการไม่มีทางออก ถ้าบริษัทดำเนินกิจการไปได้และสามารถอยู่ร่วมกับประชาชนได้ ก็จะทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดสิงห์บุรีดี ประชาชนบริเวณนั้นมีอาชีพ ซึ่งถ้าเกิดปัญหาอีกก็ต้องมาคุยกัน ร่วมกันแก้ไขให้ทุกผ่ายอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดปัญหา
หลังจากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบการดำเนินงานที่โรงงานพัชรีไข่เป็ด หมู่ที่ 4 ต.โพสังโฆ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งการจากตรวจสอบแล้วพบว่า โรงงานสะอาดดี ไม่มีกลิ่น ไม่พบปัญหาใด ซึ่งทางด้าน นายชัยชาญ ผวจ.สิงห์บุรี ได้กล่าวว่า “เข้าใจได้ดีว่าโรงงานเก่านี้มีพื้นที่น้อย ทำให้มีการบริหารจัดการน้ำจากไลน์ผลิตเป็นไปได้ยาก ซี่งทางผู้ประกอบการก็ได้พยายามทำตามแนะนำของหน่วยงานต่างๆ มาโดยตลอด ฝาก ท่านนายก อบต.โพสังโฆ ได้ช่วยให้ความรู้กับผู้ประกอบการในการกำจัดน้ำจากไลน์ผลิตที่มีกลิ่นเหม็นจะได้ไม่เกิดปัญหา และให้อธิบายทำความเข้าใจกับประชาชน ผู้ร้องเรียน และผู้ประกอบการ ว่าเป็นปัญหาที่ต้องช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทุกส่วนทั้งประชาชน ท้องถิ่น อำเภอ จังหวัดและผู้ประกอบการ ต้องหันหน้าช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์สุขร่วมกันทุกภาคส่วนจะได้อยู่ร่วมกันแบบมีความสุข ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน และต่างก็เป็นคนสิงห์บุรีด้วยกัน เพราะฉะนั้นต้องอยู่ร่วมกันให้ได้
จากนั้น ทางคณะฯ ได้เดินทางไปสำรวจที่บ่อน้ำทิ้ง หมู่ที่ 3 ต.คอทราย อ.ค่ายบางระจัน ซึ่งเป็นบ่อที่ทางโรงงานฯ นำน้ำจากไลน์ผลิตมาพักน้ำและบำบัดด้วยการเติมจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง จนน้ำกลายเป็นสีแดงและสามารถนำมาใช้เป็นปุ๋ยในการเกษตรได้เป็นอย่างดีและไม่มีกลิ่น อีกทั้ง นายสมบูรณ์ ฯ อุตสาหกรรม จ.สิงห์บุรี ยังได้แนะนำให้นำน้ำจุรินทรีย์สังเคราะห์แสงนี้ ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ทำการเกษตรอีกด้วย
“อยากให้ประชาชนอยู่ได้ด้วยความสุข ธุรกิจก็เดินหน้าด้วยกันได้ ไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเดินกันไม่ได้ มีอะไรควรคุยกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหา ขับเคลื่อนไปด้วยกัน ทั้งสองฝ่ายอย่าตั้งกำแพงเข้าหากันทั้งคู่ ทางนี้ก็อยากให้ชาวบ้านมีความสุข ทางนี้ก็อยากให้ธุรกิจของตนเองขับเคลื่อนได้โดยไม่กระทบชาวบ้าน ผลประโยชน์ไม่ได้ขัดกัน เพียงแต่ว่าการสื่อสารการทำความเข้าใจกันอาจจะมีปัญหา ขอให้พูดคุยหันหน้าเข้าหากัน เดินไปด้วยกันให้ได้ เมื่อธุรกิจเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ก็จะมีรายได้เข้ามาในท้องถิ่นมากขึ้น มีการจ้างงานในพื้นที่ มันเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายอยู่ได้ แล้วอีกฝ่ายอยู่ไม่ได้ ซึ่งหลักการทำงานของจังหวัดคือ ทุกฝ่ายไปด้วยกันได้ มีปัญหาร่วมกันแก้ไข ไม่ใช่มีปัญหาแล้วทิ้งปัญหาให้อีกคนนึงแก้ ไม่สนใจทำอะไรกันสักที อย่างนี้ไม่ได้ ปัญหาทุกเรื่องในพื้นที่ ทั้งผู้ประกอบการ ทั้งเจ้าของพื้นที่ควรร่วมกันแก้ไข ถ้าร่วมก้นแก้ได้ ประโยชน์ก็จะเกิดแก่ประชาชน” ผวจ.สิงห์บุรี กล่าว