“รศ.พญ.กัญญรัตน์ กรัยวิเชียร” มอบสิ่งของจำเป็นให้กับบุคลากรทางการแพทย์

ผู้ไม่รู้จักกาลเทศะมักเพิ่มวิกฤติให้สังคม

หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม 2564

ถือเป็นมาตรการที่หวังผลลดความแออัด และการเคลื่อนย้ายคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด หยุดยั้งอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิต ทุกคนควรต้องให้ความร่วมมือเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและส่วนรวม

ขณะที่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับความมั่นคง ได้ออกประกาศตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 15 ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือทำกิจกรรม ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง หรือโดยรวมก็คือ ทั่วราชอาณาจักร หากผู้ใดฝ่าฝืน มีระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ…

การที่ฝ่ายความมั่นคงต้องใช้ ยาแรง มีบทลงโทษสูง ในสถานการณ์ฉุกเฉินจากโรคระบาดร้ายแรงกระจายไปทั่วประเทศ ก็เพราะในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน มี คนติดเชื้อ และ เสียชีวิต จากโควิดจำนวนมาก แต่ยังมี พวกไร้จิตสำนึก ออกมา ชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง หวังล้มรัฐบาล ไม่เว้นแต่ละวัน กลายเป็นจุดเสี่ยงแพร่กระจาย โรคไวรัสมรณะ ในขณะที่ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ยังต้องทำงานอย่างหนักเหนื่อยล้าสายตัวแทบขาด ในการดูแลรักษา ผู้ป่วยติดเชื้อ และ ยื้อชีวิตผู้ป่วยอาการหนัก…

ข้ออ้าง เสรีภาพ ตามระบอบประชาธิปไตย แต่แฝงด้วย กลเกมทางการเมือง การชิงอำนาจของ ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบแต่ละกลุ่ม ในสถานการณ์ที่กำลังเกิดโรคระบาดร้ายแรงกระทบต่อความเป็นความตายของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ถูกต้อง เหมาะสมตามกาลเทศะหรือไม่ วิญญูชนพึงตัดสินได้

ผ่างๆ… ในสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมาก ทำให้กังวลว่าถังออกซิเจน และก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์ เพื่อช่วยในการหายใจของผู้ป่วยที่ติดเชื้อลงปอด เริ่มขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ล่าสุด สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ประสานไปยัง กลุ่มก๊าซอุตสาหกรรม จาก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมก๊าซอุตสาหกรรมสยาม โรงงานผู้บรรจุก๊าซ และ ผู้ผลิตภาชนะบรรจุก๊าซ เพื่อสอบถามถึงความพร้อมในเรื่องกำลังการผลิต ได้รับการยืนยันว่าภาพรวมศักยภาพการผลิตของโรงงานยังมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน “ขอย้ำตรงนี้ว่าพี่น้องประชาชนไม่ต้องวิตกกังวลว่าก๊าซออกซิเจนจะไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในอนาคต เพราะจากการประสานงานไปยังเอกชนทั้ง 4 กลุ่ม ดังกล่าว ได้รับคำยืนยันว่าการผลิตของโรงงานแต่ละกลุ่ม ยังเพียงพอรองรับความต้องการของประชาชนแน่นอน”…

เมื่อ เจ้ากระทรวง ระดับมือบริหารอาชีพอย่าง รมต.สุริยะ สั่งการตรวจสอบ ประเมินกำลังการผลิตก๊าซออกซิเจนไว้ล่วงหน้า การันตีได้ว่า ออกซิเจนเพื่อการแพทย์ ในประเทศไทยไม่ขาดแคลนแน่นอน…ส่วนเรื่องปัญหาร้านจำหน่ายก๊าซออกซิเจนกักตุน หรือฉวยโอกาสขึ้นราคา คงต้องเป็นหน้าที่ของ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องติดตาม ตรวจสอบกันอย่างเข้มข้น อย่าปล่อยให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนนะจ๊ะ

ขณะเดียวกัน ทางด้านรัฐมนตรีคู่หู อย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แม้ไม่ได้คุมงานด้านสาธารณสุข แต่จากการดูแล กรมราชทัณฑ์ ที่มีปัญหานักโทษจำนวนมากติดเชื้อโควิด-19 ก็เดินหน้าต่อยอดการรักษาอาการป่วยของนักโทษที่ติดเชื้อโควิดด้วย สมุนไพรฟ้าทะลายโจร จนเห็นผล สั่งการให้เรือนจำหลายแห่งปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร พร้อม ผลิตสมุนไพรฟ้าทะลายโจรแคปซูล เพื่อใช้รักษานักโทษที่ติดเชื้อในเรือนจำ โดยสั่งเร่งกำลังการผลิตเต็มพิกัด เบื้องต้นคาดว่าในเดือน ต.ค.นี้ จะเก็บเกี่ยวพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ได้ 8 ไร่ สามารถผลิต ได้ 1 ล้านแคปซูล และเดือน พ.ย. จะเก็บเกี่ยวได้ 50 ไร่ ผลิตสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ได้ 50 ล้านแคปซูล เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยในเรือนจำ ช่วยลดการพึ่งพายารักษา และจำหน่ายจ่ายแจกให้ประชาชนเพื่อใช้รักษาอาการในภาวะที่ฟ้าทะลายโจรขาดแคลนและมีราคาแพง

ที่แน่ๆ งานนี้ รมต.สมศักดิ์ ได้ขยายผลเสนอเรื่องการส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจร เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เข้าที่ประชุม ครม. โดยที่ประชุมมีมติรับทราบการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร และพืชสมุนไพรอื่นๆในเรือนจำ โดยให้ กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งศึกษาวิจัยสรรพคุณของสมุนไพรฟ้าทะลายโจร หรือพืชสมุนไพรอื่นๆแต่ละชนิดในการรักษา ข้อระวัง อาการข้างเคียงแนวทางผลิตและจำหน่าย เพื่อให้มีแนวทางในการดำเนินการอย่างถูกต้อง ชัดเจน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป โดยมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพกำกับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการและขับเคลื่อนเกี่ยวกับ พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร รวมทั้งพืชสมุนไพรอื่นๆ เช่น กระชายขาว ในภาพรวมทั้งระบบและครบวงจร รวมทั้งให้พิจารณาแนวทางในการพัฒนาคุณภาพสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับและสร้างความมั่นใจในระดับสากล เพื่อให้มีการนำพืชสมุนไพรไปใช้ในกิจการรักษาโรคให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สมุนไพรไทยและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรต่อไป ต้องยอมรับเลยว่า นักการเมืองรุ่นเก๋า ที่เป็น นักบริหารมืออาชีพ อย่าง รมต.สมศักดิ์ ไม่ว่าจะกำกับดูแลกระทรวงไหน ก็สามารถใช้ประสบการณ์สร้างสรรค์คุณประโยชน์ช่วยเหลือประชาชนได้ โดยเฉพาะในยามที่ประเทศเผชิญวิกฤติไวรัสมรณะ

เฮ้อ…หลังจากขับเคี่ยวกันมาหลายยก ในที่สุดที่ประชุมครม. มีมติแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย 28 ตำแหน่งตามที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยเสนอ โฟกัสที่เบอร์หนึ่งข้าราชการมหาดไทย สุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับแต่งตั้งเป็น ปลัดกระทรวงมหาดไทย แทน ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่จะเกษียณอายุราชการปลายเดือน ก.ย.นี้ พร้อมแต่งตั้ง สมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน…ดับกระแสข่าว จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากร-ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะโดดข้ามห้วยมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย…งานนี้ ไม่ว่าจะมีกระแสข่าว ใครดันใคร ใครสกัดใคร แต่ที่แน่ๆ ทั้ง สุทธิพงษ์ และ จตุพร ต่างก็เป็นเพื่อนรัก “สิงห์ดำ” รัฐศาสตร์ จุฬาฯ รุ่น 36 ก่อนมีมติแต่งตั้ง ก็โทร.หากันพูดคุยกะหนุงกะหนิง เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ไม่มีแตกคอกันแน่นอน จบข่าว

“ธนูเทพ”