‘ศุภักษร’ ผงาดซิวแชมป์โรดเรซสนามมุกดาหาร ‘อนุรักษ์’ ยันพร้อมจัดทัวร์ออฟไทยแลนด์
การแข่งขันจักรยานประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2565 สนามที่ 1 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เป็นการชิงชัยในประเภทถนน โดยมี ดร.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร เขต 1 ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ร่วมกับ “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ดร.อนุรักษ์ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ได้มาจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยที่จังหวัดมุกดาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งทางสมาคมฯ ได้วางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวสรัสโควิด-19 เอาไว้เป็นอย่างดี ทำให้ชาวจังหวัดมุกดาหาร รวมไปถึงนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดมุกดาหารเกิดความสบายใจ นอกจากนี้การที่มีผู้มาเยือนจังหวัดมุกดาหารเป็นจำนวนมาก ทำให้เศรษฐกิจภายในจังหวัดมีความคึกคักกว่าเดิม โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร มีนักปั่นจากทั่วประเทศมาใช้บริการจนล้นหลาม
ดร.อนุรักษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จังหวัดมุกดาหารยังได้รับเกียรติจากสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ให้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน ร่วมกับจังหวัดสกลนคร และนครพนม ซึ่งเวลานี้เรามีความพร้อมในทุกๆ ด้าน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาท่องเที่ยวและมาชมการแข่งขันในช่วงเวลาดังกล่าว ชาวจังหวัดมุกดาหารยินดีต้อนรับทุกท่าน เวลานี้คนมุกดาหารมีความชื่นชอบกีฬาจักรยานมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่มีการจัดแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว ต้องขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ทำให้จังหวัดมุกดาหารมีความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวมาเยือนเป็นจำนวนมาก
ด้าน พลเอกเดชา กล่าวว่า ภาพรวมของการแข่งขันในสนามแรกนี้ถือว่าน่าพอใจ มีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันรวมกันทุกประเภทมากกว่า 500 คน รวมทั้งญาติพี่น้องของนักปั่นที่เดินทางมาจังหวัดมุกดาหารอีกนับพันคน ทำให้เศรษฐกิจภายในจังหวัดมุกดาหารดีขึ้น โรงแรมที่พักเต็มทุกแห่ง พี่น้องชาวมุกดาหารต่างพอใจ และที่พอใจมากที่สุดคือมาตรการป้องกันโควิด-19 ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่มีความเข้มข้น 100% ได้รับการรับรองจาก ศบค. และสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ในส่วนของนักกีฬา ล่าสุด เราได้นักฬาที่อยู่ในข่ายที่จะคัดเลือกไปแข่งขันจักรยานทางไกลสตรี “บีวาเซ่ คัพ” ที่ประเทศเวียดนาม เพิ่มเติม แต่จะขอดูผลงานในสนามที่ 2 ที่จังหวัดศรีสะเกษ อีกครั้ง ว่าจะสามารถสร้างผลงานได้ดีแค่ไหน จากนั้นจะนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับนักกีฬาที่เราเก็บตัวเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่น่ายินดีอีกประการหนึ่งคือได้เห็นแววนักปั่นฝีมือดีอีกหลายคนทั้งรุ่นยุวชน และรุ่นเยาวชน นี่คือผลประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย หากไม่มีการจัดแข่งขันเราก็จะไม่ได้นักกีฬาใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา หลังจากจบสนามที่ 2 ที่จังหวัดศรีสะเกษ น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะเรียกนักกีฬาคนใดมาเพิ่ม หรือจะยังคงใช้นักกีฬาชุดเดิมที่มีอยู่ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งการจัดการแข่งขันทุกสนามจะได้รับการเผยแพร่ข่าวสารจากสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์ทั้งหลาย ทำให้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนทั่วไป
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานด้วยความมุ่งมั่นเพื่อที่จะพัฒนานักกีฬาให้มีศักยภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ก็มีการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง มีการอบรมผู้ฝึกสอน อบรมผู้ตัดสิน มีการส่งนักกีฬาที่เป็นตัวความหวังไปฝึกซ้อมยังศูนย์ฝึกจักรยานโลก ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้แก่ นายพูนศิริ ศิริมงคล และ น.ส.จริญญา สืบจากถิ่น สองนักปั่นเสือภูเขา ครอสคันทรี่ รวมทั้ง สิบตรี โกเมธ สุขประเสริฐ นักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ก็จะตามไปฝึกในเร็ว ๆ นี้ และอาจจะส่ง “ฟ้า” สิบตรีหญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์หญิงเพิ่มเติมอีก 1 คน ซึ่งเตรียมตัวสำหรับแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ส่วนนักกีฬาคนอื่น ๆ ที่อยู่ในประเทศไทย ก็จะให้ฝึกซ้อมตามโปรแกรมของศูนย์ฝึกจักรยานโลก โดยมีสตาฟฟ์โค้ชชาวไทยเป็นผู้ต่อยอดในการพัฒนา และจากผลการแข่งขันจะเห็นว่าทีมชาติไทยได้แชมป์เกือบทุกรายการ
สำหรับผลการแข่งขันประเภทถนน โรดเรซ รุ่นที่น่าสนใจ มีดังนี้ รุ่นทั่วไปหญิง ระยะทาง 58.40 กิโลเมตร ปรากฏว่า 3 นักปั่นสาวทีมชาติไทยจาก จากทีมสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กวาดรางวัลอันดับ 1-3 ไปครองได้ทั้งหมด โดยแชมป์เป็นของ “ไก่” สิบโทหญิง ศุภักษร นันตะนะ เวลา 1.33.07 ชั่วโมง, ที่ 2 สิบตรีหญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ เวลา 1.33.07 ชั่วโมง, ที่ 3 พันตรีหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน เวลา 1.33.07 ชั่วโมงเท่ากัน
รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ระยะทาง 58.40 กิโลเมตร ที่ 1 น.ส.เยาวเรศ จิตมาตย์ จากทีมวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม, ที่ 2 น.ส.กมลรดา ขาวปลอด จากทีม A-Bike Design, ที่ 3 น.ส.กัญญารัตน์ หน่อแก้ว จากทีมสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เวลา 1.37.39 ชั่วโมงเท่ากันทั้ง 3 คน
รุ่นเยาวชนหญิง ระยะทาง 29.20 กิโลเมตร ที่ 1 น.ส.สุพิชชา วรวงศ์ จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย บางบ่อวิทยาคม เวลา 48.23.878 นาที, ที่ 2 น.ส.จิตราพร สายสิงห์ จากทีม รร.อำนาจเจริญวิทยาคม-สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอำนาจเจริญ เวลา 48.23.878 นาที, ที่ 3 น.ส.ชิน รุ่งโชติวัฒนา จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย แม่กิมไล้ เวลา 49.24.787 นาที
รุ่นเยาวชนชาย ระยะทาง 58.40 กิโลเมตร ที่ 1 “ต้นไม้” นายนันทกร นนทะแก้ว จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย เวลา 1.34.57 ชั่วโมง, ที่ 2 นายวันชนะ ธรรมปัญญา จากทีมโรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง/ราชนาวี เวลา 1.34.58 ชั่วโมง, ที่ 3 นายอับรอส ตุลยาภรณ์ จากทีมทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ สุราษฎร์ธานี-ชมรมจักรยานจังหวัดสงขลา เวลา 1.35.23 นาที
ด้านการแข่งขันประเภทเสือภูเขา อิลิมิเนเตอร์ มีผลดังนี้ รุ่นทั่วไปหญิง แชมป์ตกเป็นของ “น้องพลอย” น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์ นักปั่นทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 31 จากทีม Walailak University / Amorn Bike ชมรมจักรยานนครศรีธรรมราช, ที่ 2 น.ส.อรวรรณ หมื่นทุม จากทีมสิงห์บุรี Trinx Choyang OKO, ที่ 3 น.ส.ศิรภัสสร ชาติกำเนิด จากทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ พระราม 3 /e-thirteen/ Veetireco
รุ่นทั่วไปชาย ที่ 1 นายสืบสกุล สุขจรรยา จากทีม Bike Zone Veetireco สมาคมจักรยานจังหวัดนครราชสีมา CK Racing, ที่ 2 นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ นักปั่นทีมชาติไทยจากทีม Lomocycle Veetireco เทศบาลหนองปรือ, ที่ 3 จ่าเอก วัชรกรณ์ อ่อนธุรี จากทีมสิงห์บุรี Trinx Choyang OKO
สำหรับการแข่งขันจักรยานประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2565 สนามที่ 2 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) จะแข่งขันระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดศรีสะเกษ นักกีฬาที่สนใจสมัครเข้าแข่งขัน สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 12.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.