พิธีรับมอบตราสัญลักษณ์
นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมพิธีรับมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้แก่ปลัดกระทรวงทั้ง 20 กระทรวง ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และสื่อมวลชนทุกแขนง ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ ยังทรงพระราชทานตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เพื่อใช้ประดับตกแต่งอาคารบ้านเรือน สถานที่ราชการ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ต่าง ๆ ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่พร้อมใจกันจัดขึ้นทั่วประเทศ อาทิ โครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูปเฉลิมพระเกียรติฯ ส่วนภูมิภาค วัดต่าง ๆ ที่จังหวัดกำหนด จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน : With Love for the Nation” ระหว่างวันที่ 1-15 สิงหาคม 2565 ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าสีลาศถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยร่วมจัดทำโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และถวายพระราชกุศลให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ตลอดปี 2565 ในโอกาสอันเป็นมหามงคล รัฐบาลเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักกระ ตกแต่งสถานที่ประดับพระฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติคู่กับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบายสีขาว ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน ตามความเหมาะสมโดยพร้อมเพรียงกัน (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)
จัดพิธีบรรพชาอุปสมบท 910 รูป
นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ คณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดพิธีบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับ พระเทพมงคลโสภณ เจ้าคณะภาค 17-18 ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดเสนาสนารามราชวรวิหาร
นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานพิธีมอบผู้ไตรโครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ณ พุทธมณฑลประจำจังหวัดสิงห์บุรี
นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการอุทัยธานี เป็นประธานในพิธีบรรพชาอุปสมบท โครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีพระราชอุทัยโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เจ้าอาวาสวัดหนองขุนชาติ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
รัฐบาล ได้จัดโครงการบรรพชาอุปสมบท 910 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนจากทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าว รวมทั้งศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา สามารถนำมาปรับใช้และปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้เกิดการประพฤติปฏิบัติดีแก่สังคมโดยส่วนรวม มีจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและการแสดงความจงรักภักดี รวมทั้งได้พัฒนาจิตใจให้เกิดสติ สมาธิ และปัญญา สามารถนำธรรมะ มาใช้ในการพัฒนางาน พัฒนาชีวิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)
เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ผู้ประสบอัคคีภัย
วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ บ้านเลขที่ 76/1 หมู่1 ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอลาดบัวหลวง จำนวน 2 ครอบครัว ได้แก่ ครอบครัว นางราวรรณ พรมโต ซึ่งบ้านที่อยู่อาศัยเลขที่ 25/1 หมู่ที่ 6 ตำบลหลักชัย ประสบอัคคีภัยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง มีผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 4 คน และครอบครัว นางม๊ะ รอดพ้น ซึ่งบ้านที่อยู่อาศัยเลขที่ 76/1 หมู่ที่ 1 ตำบลลาดบัวหลวง ประสบอัคคีภัยเมื่อเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง มีผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 2 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต
ซึ่งในช่วงเช้า ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมาย นายประพันธ์ ตรีบุบผา ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของพระราชทานให้แก่ครอบครัว นางชูศรี โพธิ์ทองมา ซึ่งบ้านที่อยู่อาศัยเลขที่ 125 หมู่ที่ 5 ตำบลวังจุฬา อำเภอวังน้อย ประสบอัคคีภัย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง มีผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 3 คน การได้รับสิ่งของพระราชทาน ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระบรมราชูปถัมภก แห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นล้นพ้น
โอกาสนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา อาทิ เหล่ากาชาด ชมรมแม่บ้านมหาดไทย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอำเภอลาดบัวหลวง ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น มูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและเด็กกำพร้า (ยาตีมทีวี) สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจุฬาราชมนตรี จิตอาสาพระราชทาน และประชาชนจิตอาสา ได้มอบเงินและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยด้วย (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)
ประชุมรับมือมวลน้ำ
วันที่ 25 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.อ.ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.รมน. รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ เพื่อหารือเตรียมการรับมือมวลน้ำ หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เร่งระบายน้ำเพิ่มเป็น 850 ลบ.ม. ต่อวินาที
นายวีระชัย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า พื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ยังมีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1 เมตร ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำ 850 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งจากปริมาณน้ำดังกล่าวจะใช้เวลา 35 ชั่วโมง มวลน้ำจะไหลมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้แจ้งเตือนไปยังอำเภอในพื้นที่ลุ่มต่ำ 3 อำเภอ ได้แก่ ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล ซึ่งบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำให้ยกของขึ้นที่สูงแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือมวลน้ำที่จะมาถึง ซึ่งมวลน้ำทุก 100 ลบ.ม. จะส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้น 25 เซนติเมตร ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมใต้ถุนบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำน้อย เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำจากกรมชลประทาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และหากประชาชนประสบปัญหาได้รับผลกระทบขอให้แจ้งอำเภอ ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้ประสานงานกับหน่วยงานทหารภายในพื้นที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนได้ทันที (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)
ศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนา
ช่วงเช้าของวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดศูนย์เรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนาระดับโรงเรียน ณ โรงเรียนเทศบาลทับยา (วัดสุทธาวาส) ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีนายนิพนธ์ สีตะระโส นายกเทศมนตรีตำบลทับยา ได้จัดทำโครงการศูนย์เรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนาโมเดลในระดับโรงเรียน จังหวัดสิงห์บุรี ขึ้น โดยน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการนำทฤษฎีใหม่ตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่ทางการเกษตร โดยมีการผสมผสานภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนต่าง ๆ ได้แก่ พื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัย พื้นที่สำหรับแหล่งน้ำ พื้นที่สำหรับเพาะปลูก พื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามความต้องการของเจ้าของพื้นที่และความเหมาะสมของสภาพภูมิศาสตร์และสังคม นั้น เทศบาลตำบลทับยา ได้เห็นความสำคัญของการดำเนินการตามโครงการดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนา ในด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ ให้เป็นคนดี มีคุณภาพ มีจิตสาธารณะ มีนิสัยรักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิต รวมทั้งยกระดับการศึกษาให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้น เทศบาลตำบลทับยา จึงได้ขับเคลื่อนการดำเนินการตามโครงการศูนย์เรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนาระดับโรงเรียน จังหวัดสิงห์บุรี โดยการสร้างแหล่งเรียนรู้โคกหนองนาในพื้นที่ของโรงเรียนเทศบาลทับยา (วัดสุทธาวาส) จำนวน 736 ตารางเมตร ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เป็นต้นมา
โดยความร่วมมือของทุกฝ่ายในพื้นที่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสเรียนรู้แนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ตลอดจนเป็นการปลูกฝังความรู้ศาสตร์พระราชา ทั้งในแง่ของทฤษฎีและปฏิบัติ เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นพลังอันสำคัญของชาติได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศที่สำคัญต่อไปดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้การดำเนินโครงการดังกล่าว บรรลุตามวัตถุประสงค์ เทศบาลตำบลทับยา จึงได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่นจังหวัดสิงห์บุรี จัดกิจกรรมตามโครงการศูนย์เรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนาระดับโรงเรียน จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย ภาคเช้า กิจกรรมเปิดศูนย์เรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชาสู่โคกหนองนา ระดับโรงเรียน จังหวัดสิงห์บุรี โรงเรียนเทศบาลทับยา (วัดสุทธาวาส) โดยบูรณาการกิจกรรมร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวทางศาสตร์พระราชาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ต่อเนื่อง อย่างยั่งยืน ซึ่งมีกิจกรรมปลูกต้นไม้ยืนต้น พืชผักสวนครัว และดำนา โดยใช้พันธุ์ข้าวพื้นบ้านของจังหวัดสิงห์บุรี พันธุ์ข้าวหอมนางมล ภาคบ่าย กิจกรรมฝึกอบรมตามโครงการส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กนักเรียน เยาวชนและอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลกในพื้นที่ (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)
นายกเหล่ากาชาด มอบทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางจิตติวรรณ สิทธิวิรัชธรรม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเยาวชนผู้ได้รับทุนการศึกษาของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประจำปี 2565 ของจังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 19 ราย โดยมี คณะกรรมการทุนการศึกษาของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนในพระบรมราชินูปถัมภ์ประจำจังหวัดสิงห์บุรี ประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี เหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี แม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสิงห์บุรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานส่งเสริมเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง สำนักงานศึกษาธิการมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดสิงห์บุรีได้พิจารณาคัดเลือกเยาวชนเข้ารับทุน “มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ” ในระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา โดยพิจารณาจากความสนใจ มีความประพฤติดี และมีความตั้งใจเล่าเรียน รวมทั้งความเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ด้านการศึกษา ครอบครัวมีฐานะยากจน ยากไร้ หรือด้อยโอกาส โดยลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมผู้ได้รับทุนฯ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและมอบเงินอุดหนุนเป็นทุนการศึกษาให้เยาวชนทั้ง 19 ราย
ซึ่งวันแรกได้ตรวจเยี่ยมครอบครัวเยาวชนฯ จำนวน 6 ราย สำหรับวันนี้เป็นวันที่สอง ซึ่งคณะกรรมการฯ ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมครอบครัวเยาวชนผู้ได้รับทุน จำนวน 7 ราย ได้แก่ ด.ญ.สุพัตตา ชูเถื่อน โรงเรียนบางระจันวิทยา ด.ญ.ศิริพร เอี่ยมสมาน โรงเรียนวัดโพธิ์ทะเลสามัคคี น.ส.โชติการ บุญแน วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี นายสราวุฒิ พันแจ่ม วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ด.ช.นภัสกร อุดมเศรษฐ์ ด.ช.ลภัสพงษ์ พรหมบุตร โรงเรียนท่าช้างวิทยาคาร และ ด.ญ.สิริขนิษฐ์ ดาวเรือง วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรีแห่งที่ 2 เพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักว่าทุนนี้สำคัญยิ่ง อยากให้นักเรียนเป็นที่พึ่งของตนเอง ให้เป็นที่พึ่งของครอบครัว และเป็นบุคลากรมาพัฒนาสังคมและเป็นเทศชาติได้ (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)
ร่วมกาชาดชัยนาท
ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดชัยนาท ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ณ หอประชุมอำเภอหันคา โดยมีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น จำนวน 273 ราย ได้รับบริจาคการโลหิตได้ จำนวน 216 ราย, บริจาคร่างกาย จำนวน 17 ราย, บริจาคดวงตา จำนวน 17 ราย และบริจาคอวัยวะ จำนวน 10 ราย
โอกาสนี้ นายอดิศร เกิดโต นายอำเภอหันคา ได้ร่วมบริจาคโลหิต และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาบริจาคโลหิตในภาวะโลหิตขาดเเคลนจากวิกฤติโควิด-19 เพื่อนำไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในภาวะการขาดเลือดด้วยโรคต่างๆ (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)
ปลุกใจเยาวชน ให้เป็นข้าราชการ
วันที่ 22 กรกฎาคม 65 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมลักษ์ ยกน้อยวงค์ นายอำเภออุทัย เป็นประธานโครงการ ปลุกใจเยาวชนให้เป็นข้าราชมืออาชีพ ไม่ใช่มีอาชีพรับราชการ ที่ รร.วัดสระแก ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภออุทัยได้บรรยายประสบการณ์ ทำงานให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 เพื่อปลุกใจหากคิดจะรับราชการจะต้องเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดูแลทุกข์สุขรับใช้ประชาชน ต่างพระเนตรพระกันเป็นข้าราชการมืออาชีพ ไม่ใช่มีอาชีพรับราชการรับเงินเดือนไปงั้น ๆ ทุกวันนี้หน่วยงานรัฐ ถึงต้องทำสิ่งที่ทดแทน แก่องค์กร ข้าราชการ ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้กับหน่วยงาน ข้าราชการ หน่วยงานต่างๆ ฉะนั้นทางอำเภอสร้างจึงได้จัดให้เยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้ให้มากขึ้น (ชาญ ชูกลิ่น / อยุธยา)
ช่วยเหลือครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ
นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นางฐิติรัตน์ แวงชิน นางประภารัตน์ เกตุพันธุ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี และแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลพบุรี ร่วมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ตั้งใจบริจาคอวัยวะ ดวงตา ไต และตับ ให้แก่สภากาชาดไทย ทั้งนี้ทีมแพทย์จาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ผ่าตัดนำอวัยวะออก ส่งมอบศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย และศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยที่รอรับความช่วยเหลือให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป โดยการมอบเงินช่วยเหลือครั้งนี้ แพทย์หญิงนุชรินทร์ อักษรดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช คณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.ลพบุรี (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)
พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ยุคดิจิทัล
นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดงาน “King Narai Palace : พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ มุมมองยุคดิจิทัล” โดยมี นางประภาพรรณ ศรีสุข พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ นางจิรารัตน์ มีงาม ผอ.ททท.สำนักงานลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน ที่ พระที่นั่งสุทธาสวรรคย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
สำหรับ “King Narai Palace” เป็นสื่อนำชมรูปแบบสันนิษฐานของพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อันเป็นผลงานที่เกิดจากการร่วมมือระหว่างองค์กรของรัฐตามโครงการส่งเสริมการตลาดและพัฒนาสินค้าที่ระลึกเพื่อสร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยว ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ได้รับงบประมาณจากจังหวัดลพบุรีในการพัฒนาสื่อนำชมดังกล่าว โดยเป็นการนำเอาเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) เทคโนโลยีโลกเสมือนมาผสานเข้ากับโลกแห่งความจริงเพื่อนำเสนอรูปแบบสันนิษฐานพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ตลอดจนที่อยู่ของข้าราชบริพารฝ่ายในด้วยภาพ 3 มิติ และนำเสนอข้อมูลโบราณสถานและโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ รวมไปถึงโบราณสถานใกล้เคียงด้วย ซึ่งถือเป็นการพัฒนาสื่อนำชมโบราณสถานรูปแบบใหม่เพื่อให้สอดรับกับโลกยุคดิจิทัลที่ทุกคนสามารถพกพาความรู้และความเพลิดเพลินไปได้ทุกที่และเข้าถึงได้ทุกเวลา ทั้งยังเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ตอบสนอง และอำนวยความสะดวกในการเที่ยวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะสามารถเที่ยวชมได้ด้วยตนเอง (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)
บริจาคโลหิตช่วยผู้ป่วย
เหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี เปิดรับบริจาคโลหิต ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น. ณ บริเวณห้องโถงชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี อาคาร 5 ชั้น โดยมีข้าราชการ พนักงานราชการ รัฐวิสาหกิจลูกจ้าง และประชาชน มาลงทะเบียนรับบัตรคิวบริจาคโลหิตกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมแพทย์จากภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 2 จังหวัดลพบุรี และเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี มาให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิตเพื่อสำรองโลหิตให้กับผู้ป่วยต่างๆ ที่จำเป็นต้องได้รับโลหิตในการรักษา ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเลือด โรคมะเร็ง ผ่าตัด คลอดบุตร อุบัติเหตุ และอื่นๆ ที่ต้องการเลือดเป็นจำนวนมาก
ในโอกาสนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสิงห์บุรี ได้ร่วมบริจาคโลหิตและบริจาคน้ำดื่มจำนวน 30 แพ็ก ตามโครงการ PEA ใส่ใจทุกชีวิตบริจาคโลหิต 10 ล้านซีซี เพื่อสนับสนับสนุนโลหิตกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)
สร้างรอยยิ้มให้ชุมชน
นายทินกร ลิมปนสุทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าวังน้อย พร้อมผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน ร่วมมอบชุดกรองน้ำดื่มระบบ RO และเครื่องกรองน้ำ 5 ขั้นตอน UV รวมทั้งตู้น้ำดื่มแสตนเลส หยอดเหรียญ ให้แก่ โรงเรียนวัดลำพระยา (แช่มช้อยวิทยา) และวัดลำพระยา โดยมี พระอธิการธวีป สิริสุวณโณ เจ้าอาวาสวัดลำพระยา นายเทพประทาน ช่างสาน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดลำพระยา และนายวิโรจน์ จำเริญสิริบุญกุล กำนันตำบลวังจุฬา เป็นผู้รับมอบ ณ วัดลำพระยา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนมีสุขภาพที่ดี มีน้ำสะอาดในการอุปโภค-บริโภค รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงไฟฟ้ากับชุมชน
จากนั้น นายทินกร ลิมปนสุทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าวังน้อย พร้อมผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน ร่วมมอบพัดลมตั้งโต๊ะ จำนวน 10 เครื่อง และหม้อหุงข้าว จำนวน 10 ใบ สำหรับเป็นของรางวัลให้แก่ประชาชนในพื้นที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น โดยมี นายสุรชัย โคตรบุตรดี นายอำเภอวังน้อย และนายสมศักดิ์ เลาหภิชาติชัย สาธารณสุขอำเภอวังน้อย เป็นผู้รับมอบ ณ ที่ว่าการอำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา (ชาญ ชูกลิ่น / อยุธยา)
อัจฉริยะยุวชนประกันภัย
ที่ห้องประชุมสำนักงานคลังจังหวัดสระบุรี ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายนิติรุจน์ จิรสนองสิทธิ์ คลังจังหวัดสระบุรี เป็นประธานคณะกรรมการตัดสินการประกวดโครงการอัจฉริยะยุวชนประกันภัยระดับจังหวัด ประจำปี 2565 ของสำนักงาน คปภ.จังหวัดสระบุรี มีพาณิชย์จังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด ผู้แทน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 4 ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัด เป็นคณะกรรมการร่วมตัดสิน
การประกวดมี 2 ประเภท ได้แก่ ผลงานรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นและผลงานรูปแบบเพลง ซึ่งผลการตัดสิน รูปแบบคลิปวิดีโอสั้น ชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค สระบุรี ที่ 2 โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ที่ 3 โรงเรียนวังม่วงวิทยาคม ที่ 4 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สระบุรี ส่วนรูปแบบเพลง ชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนเทพศิรินทร์พุแค สระบุรี ที่ 2 โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)