นครพนม-แกนนำสหาย อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย รำลึก ‘วันเสียงปืนแตก’ บ้านนาบัว อ.เรณูนคร ครบรอบ 57 ปี วอนรัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญมาจากการสืบอำนาจ ห่วงความขัดแย้งรุนแรง ยันประชาชนต้องมีส่วนร่วม เรียกร้อง ‘บิ๊กตู่’ คืนอำนาจที่มาจากกระบอกปืน หยุดสืบอำนาจ สร้างประชาธิปไตยแก่ประชาชน
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านนาบัว ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม นายภักดี สุขรี นายก อบต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร พร้อมด้วย แกนนำสหาย ประกอบด้วย นายหวัง สีสุวัน อายุ 70 ปี หรือสหายปัญญา นายชันฝา จิตมาตย์ อายุ 62 ปี หรือสหายสิงห์บุรี นายสมพร คงภักดี อายุ 64 ปี สหายสมพร แกนนำสหายพื้นที่ จ.สุราษธานี รวมถึงนายพงศธรณ์ ตันเจริญ ตัวแทนกลุ่มเสรีมวลชนเพื่อสังคม นิสิต สังกัดวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมจัดกิจกรรมงานรำลึก ครบรอบ 57 ปี วันเสียงปืนแตก ครั้งที่ 18 บ้านนาบัว คือวันที่ 7 สิงหาคม 2508
ถือเป็นวันสำคัญ อันเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ของกลุ่มสหาย สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ปะทะกับเจ้าหน้ารัฐเป็นจุดแรก ก่อนที่กลุ่มสหายจะเข้าป่าตั้งกองกำลังเรียกร้องประชาธิปไตย ในยุคสงครามประชาชน ซึ่งเกิดจากการแตกแยกทางความคิด ส่งผลให้เกิดปัญหายืดเยื้อมานานหลาย 10 ปี จนเกิดการสูญเสียเลือดเนื้อชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีการต่อสู้ยืดเยื้อเป็นเวลากว่า 20 ปี ทำให้ หมู่บ้านนาบัว กลายเป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์มาจนถึงปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้บรรดากลุ่มสหายได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลให้วางอาวุธออกจากป่า ตามคำสั่งที่ 66/2523 รับการเยียวยาที่ดิน ทำกินพร้อมเงินชดเชย
นายหวัง หรือสหายปัญญา เปิดเผยว่า วันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี ถือเป็นวันรำลึก “วันเสียงปืนแตก” เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ปี 2508 เป็นวันที่จุดกำเนิดความแตกแยกทางความคิดของภาครัฐกับประชาชน ที่บ้านนาบัว ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เป็นที่มาของการก่อตั้งกลุ่มสหายดาวแดง หรือสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ฯ ยังเป็นวันที่จดจำมาหลาย 10 ปี ในฐานะประชาชนคนไทยยอมรับว่าได้ร่วมอุดมการณ์ในการต่อสู้ทางความคิด เนื่องจากถูกบีบบังคับจากรัฐบาลที่ใช้อำนาจในการปกครองประชาชน ทำให้เกิดความแตกแยกทางความคิด
สหายปัญญากล่าวว่า ได้ร่วมทำงานกับกลุ่มสหายเข้าป่านานกว่า 5 ปี ทำหน้าที่ดูแลรักษาพยาบาล ถึงแม้วันนี้จะออกจากป่า บ้านเมืองสงบกว่าเดิม แต่ยังต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่อยากเห็นความแตกแยก และความขัดแย้งในสังคมอีกครั้ง ฝากเป็นข้อคิดรัฐบาลเพราะทุกวันนี้ยังเป็นรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ ทุกปีกลุ่มสหายจะต้องมารวมพลังรำลึกถึงบรรพบุรุษที่เคยต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย มาจากอดีตถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจคนไทยและรัฐบาลในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
นายพงศธรณ์กล่าวว่า ดีใจที่ได้นำกลุ่มเพื่อนนักศึกษามาร่วมกิจกรรมรำลึกวันเสียงปืนแตกที่บ้านนาบัว ถือเป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งเตือนใจคนไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน และเป็นเหตุการณ์ที่นักการเมือง รวมถึงรัฐบาลจะต้องนำมาเป็นบทเรียนในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยเฉพาะรัฐบาลปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าเป็นรัฐบาลมาจากการสืบทอดอำนาจ สำคัญที่สุดคือรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ได้มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนั้น ต้องมีการแก้ไข เพราะตนเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่สมบูรณ์ที่สุดคือ ปี 2540 แต่ถูกฉีกไปกับอำนาจทหาร จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลคืนอำนาจประชาชน ด้วยการเลือกตั้ง และแก้ไขรัฐนธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนต้องมีส่วนร่วม ไม่ใช่การสืบอำนาจ
สำหรับการจัดงาน “รำลึกวันเสียงปืนแตก” ทุกปี เพื่อเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้ของประชาชนให้สังคม รวมถึงเยาวชน ลูกหลาน ได้รับรู้และศึกษาประวัติศาสตร์ ให้มีจิตสำนึก หันมาหวงแหน เกิดความสามัคคีในประเทศชาติ
โดยกิจกรรมในงานรำลึกมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับ แสดงดนตรีบทเพลงเพื่อชีวิต ตำนานการต่อสู้ของอดีตสหาย และเปิดให้ชมศูนย์เรียนรู้ที่ยังเก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ รวมถึงอุปกรณ์การดำรงชีพของกลุ่มสหายในอดีต พร้อมจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกลุ่มสหายกับตัวแทนชาวบ้าน และลูกหลานเยาวชน มีเนื้อหาเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คืนอำนาจประชาชน ในการเลือกตั้งใหม่ และเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์แบบ จะต้องเป็นรัฐบาลที่มีส่วนร่วมของประชาชน เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันมาจากการสืบทอดอำนาจ ไม่อยากเห็นความขัดแย้งที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะเป็นรัฐบาลมาจากกระบอกปืนที่ใช้อำนาจทหารนำการเมือง ไม่ใช่การเมืองนำอำนาจทหาร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 7 สิงหา ‘วันเสียงปืนแตก’ เหตุเกิดที่บ้านนาบัว เรณูนคร ข่าวใหญ่ของประเทศเมื่อ 57 ปีก่อน
- ใต้ธงปฏิวัติ เปิดหนังสืองานศพ ‘ธง แจ่มศรี’ ในวันที่คอมมิวนิสต์ยังถูกปลุกผี
- เปิดตำนาน ‘โรงแรมตุ้นกี่’ พรรคคอมมิวนิสต์คุยลับครั้งแรก ทายาทซึ้งคนยังจดจำ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่