วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2024

ปรับ ครม. ประยุทธ์ 2/4: 4 เรื่องควรรู้ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ผู้จงรักภักดี

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ประยุทธ์ 2/4” มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 3 คน ได้ขยับชั้นขึ้นเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่พร้อมกัน โดยหนึ่งในบุคคลที่เป็นนักการเมือง “สายล่อเป้า” หนีไม่พ้น ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

บีบีซีไทยรวบรวม 4 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ มาไว้ ณ ที่นี้

ส.ส. 3 พรรค 3 ระบบ

ชัยวุฒิในวัย 49 ปี ผ่านการสังกัดพรรคการเมืองมาแล้ว 3 พรรค เป็น ส.ส. 3 สมัย ภายใต้ระบบเลือกตั้ง 3 แบบ เริ่มตัดสายสะดือทางการเมืองเมื่อปี 2544 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้เป็น ส.ส.สิงห์บุรี ภายใต้ระบบเลือกตั้งแบบ “เขตเดียวเบอร์เดียว”

3 ปีผ่านไป เขาเก็บข้าวของย้ายไปอยู่ใต้ชายคาพรรคชาติไทย (ชท.) และลงสนามเลือกตั้งแบบ “เขตใหญ่เรียงเบอร์” ในปี 2550 ได้เป็น ส.ส.สิงห์บุรี อีกหน ก่อนจำต้อง “เว้นวรรคการเมือง” 5 ปี ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งยุบพรรค ชท. พร้อมเพิกถอนสิทธิการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เป็นเวลา 5 ปี นับจากปี 2551

พอพ้นโทษแบนการเมือง ชัยวุฒิตั้งใจผันตัวไปเล่นการเมืองในสภาสูง จึงลงสมัครรับเลือกตั้งและได้เป็น ส.ว.สิงห์บุรี ทว่ายังไม่ทันได้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภา ก็เกิดรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 เสียก่อน ทำให้คนการเมืองทั้งในสภาสูง-สภาล่างต้องตกงานพร้อมกัน

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็น “ที่ปรึกษาใหญ่” ของกลุ่ม “สี่กุมาร” ใน พปชร. ก่อนที่ทั้งหมดจะลาออกจากรัฐบาลไป แล้วเปลี่ยนทีมบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณเป็นหัวหน้า พปชร.

กระทั่งปี 2561 ชื่อชัยวุฒิกลับมาปรากฏอีกครั้งในแวดวงการเมือง เมื่อมีข่าวตบเท้าเข้าพบ 2 รองนายกฯ แบบต่างกรรมต่างวาระคือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่น่าสนใจคือนักการเมืองกลุ่ม “สามทหารเสือ กปปส.” ประกอบด้วย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ สกลธี ภัททิยกุล ได้ร่วมฉากพร้อมกันกับชัยวุฒิ โดยบุคคลทั้ง 4 คนเคยเป็นศิษย์เก่าร่วมค่าย ปชป. มาก่อน ก่อนที่ทั้งหมดจะเปิดหน้าต่อสาธารณะในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง พชปร. เมื่อ 29 ก.ย. 2561

ชัยวุฒิมีตำแหน่งเป็น 1 ใน 24 กก.บห.พปชร. ชุดแรก และยังเป็น 1 ใน 11 คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ลงสนามเลือกตั้งปี 2562 ภายใต้ระบบ “จัดสรรปันส่วนผสม” โดยที่ตัวเขาเองถูกจัดวางไว้ในบัญชี ส.ส.บัญชีรายชื่อ หมายเลข 10 และได้หวนกลับเข้าสภาสมใจ หลังจากว่างเว้นไปนานถึง 11 ปี

ว่ากันว่าในโผ ครม. ของ พปชร. มีชื่อชัยวุฒิเป็น “รัฐมนตรีสำรอง” อันดับแรก ๆ หลังการตั้งรัฐบาล “ประยุทธ์ 2/1” เสร็จสิ้นลง ก่อนที่เขาจะได้ขยับชั้นขึ้นแท่นรัฐมนตรีจริง ๆ ในการปรับ ครม. ประยุทธ์ 2/4

ที่มาของภาพ, ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์/Facebook

คำบรรยายภาพ,

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กับ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ สาธิต ปิตุเตชะ (หน้าไปหลัง) ระหว่างการประชุมสภา

เครือข่าย “วิศวะจุฬาฯ”

ในช่วงเว้นวรรคการเมือง 5 ปี ชัยวุฒิต้องงัดความรู้เก่าในฐานะวิศวกร และอาศัยสายสัมพันธ์อันแนบแน่นของเครือข่าย “วิศวะจุฬาฯ” ไปทำมาหาเลี้ยงชีพ โดยมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการบริหารฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท กัลฟ์ (Gulf Energy)

เขากระโจนเข้าสู่ภาคธุรกิจพลังงานตามคำชักชวนของ ธนญ ตันติสุนทร เพื่อนร่วมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งนั่งเป็นผู้บริหารองค์กรนี้ โดยมี สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มหาเศรษฐีแสนล้าน เป็นนิสิตเก่ารุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ด้วย

นอกจากนี้ยังมี “พี่-เพื่อน-น้อง” ชาว “วิศวะจุฬาฯ” รายอื่น ๆ โลดแล่นอยู่ในภาคการเมือง ธุรกิจ และราชการ เฉพาะรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรี อาทิ

  • สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน
  • อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ อดีต รมว.คลัง
  • ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ อดีต รมว.อุตสาหกรรม และแกนนำ กปปส.
  • ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม
  • พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน และอดีต รมว.คมนาคม
  • อดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ และ รมว.ศึกษาธิการ
  • วิเศษ จูภิบาล อดีต รมว.พลังงาน

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กับเพื่อนร่วมพรรค

คำว่า “วิศวะจุฬาฯ” ถูกพูดถึงอย่างครึกโครม หลังสื่อมวลชนสายทำเนียบรัฐบาลตั้งคำถามต่อ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า พปชร. เมื่อ 16 มี.ค. ว่า ชัยวุฒิ รองเลขาธิการพรรค พปชร. เหมาะสมตรงไหน ซึ่งหัวหน้าพรรคแกนนำรัฐบาลตอบว่า “นายชัยวุฒิจบวิศวะจุฬาฯ” ก่อนย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “คุณจบอะไร คุณจบราชภัฏ แล้วจะเอายังไง”

คำพูดของ พล.อ. ประวิตร ผู้จบโรงเรียนนายร้อย จปร. ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเรื่องการกดเหยียดสถาบันการศึกษา แม้เจ้าตัวจะฝากทีมงานมาแก้ต่าง-แก้ไขคำพูดเสียใหม่ว่า “ไม่ว่าจะจบราชภัฏ หรือจบที่ไหน ทุกคนก็มีความสามารถด้วยกันทั้งนั้น” ก็ตาม แต่ก็ไม่ทำให้เสียงวิจารณ์หัวหน้า พปชร. ลดลง

นอกจากความรู้และเครือข่าย “วิศวะจุฬาฯ” ที่ชัยวุฒิได้มาขณะศึกษาระดับปริญญาตรี เขายังมีวุฒิวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วย

ตระกูลการเมือง

หากตระกูลการเมืองอื่น ๆ สืบทอดและขยายฐานอำนาจผ่านสายโลหิตจากรุ่นสู่รุ่น จะถือว่าชัยวุฒิคือรุ่นบุกเบิกของตระกูล “ธนาคมานุสรณ์” ก็คงไม่ผิดนัก

ในวัยครึ่งร้อย เขาสามารถผลักดันให้ญาติผู้น้องอย่าง โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เข้าสภาได้ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สิงห์บุรี ปี 2552 แทนตัวเองที่ถูกเพิกถอนสิทธิการเมืองตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการเทคะแนนให้โชติวุฒิซึ่งสวมเสื้อ ปชป. ลงสนามเลือกตั้ง และอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2562 โดยดูด-ดึงน้องชายให้ย้ายค่ายจาก ปชป. มาร่วมงานกับพรรคเกิดใหม่อย่าง พปชร. ก่อนโค่นคู่ปรับเก่า-แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงได้

นอกจากนี้ชัยวุฒิยังหนุน-ส่งศรีภรรยา กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 2 สมัย ให้อัพเกรดขึ้นเป็น ส.ส.กทม. พปชร. ได้สำเร็จ เรียกว่ายกครัวเข้าสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ได้ทั้ง 3 ชีวิต

“ผู้จงรักภักดี”

ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ชัยวุฒิเป็นหนึ่งในนักการเมืองฝีปากกล้าที่ “ผู้ใหญ่ในพรรค” จัดวางลง “ทีมองครักษ์” ของ พปชร. ในการประชุมนัดสำคัญ ๆ รับหน้าที่ประท้วงและอภิปรายปกป้องผู้นำทุกระดับ ตั้งแต่ผู้นำพรรค ผู้นำรัฐบาล และที่สำคัญคือสถาบันพระมหากษัตริย์

แนะนายกฯ อย่าลาออก เพราะ “เขาไม่ได้ทะเลาะกับหมา เขาทะเลาะกับเจ้าของหมา”

ในระหว่างการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกประเทศจากสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง เมื่อ 27 ต.ค. 2563 ชัยวุฒิอภิปรายเปิดโปงวาระซ่อนเร้นของขบวนการนักศึกษาประชาชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ โดยเชื่อว่าข้อเสนอของผู้ชุมนุม คนไทยทั้งประเทศรู้หมดแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่ใส่เสื้อเหลืองชุมนุมแทบทุกจังหวัด วันนี้สภาต้องเอาความจริงมาพูด อย่ามาดัดจริต

“ในการชุมนุมเสนอให้ยกเลิกการใช้บริการไทยพาณิชย์ ซึ่งคนถือหุ้นคือสถาบันพระมหากษัตริย์ ปราศรัย 1 ชั่วโมง โจมตีรัฐบาล 10 นาที อีก 50 นาทีที่เหลือโจมตีสิ่งที่อยู่เหนือรัฐบาล… มีการกล่าวหารัฐบาลเป็นหมา บอกถ้าหมาข้างบ้านเห่า เขาจะไม่ไปพูดกับหมา ไม่ทะเลาะกับหมา เขาจะทะเลาะกับเจ้าของหมา” ชัยวุฒิกล่าว

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

ผู้ชุมนุมกลุ่ม “คณะราษฎร 2563” เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 14 ต.ค. 2563

จากนั้นเขาได้ไล่เรียงพฤติกรรมของผู้ชุมนุมบางส่วนที่ขัดขวางขบวนเสด็จฯ, ใช้ถ้อยคำหยาบคาย, ฉีกพระบรมฉายาลักษณ์ รวมถึงการเรียกชื่อขบวนการตัวเองว่า “คณะราษฎร 2563” ซึ่งทำให้เขาตั้งข้อสังเกตว่า “จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบไหน” และยังวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของฝ่ายประท้วงต่อต้านรัฐบาลว่ามี 3 องค์ประกอบหลัก

  • โซเชียลมีเดีย: ถูกใช้เพื่อส่งต่อข้อมูลและภาพบิดเบือนตัดต่อ เพื่อสร้างความเกลียดชังรัฐบาล และจาบจ้วงสถาบันฯ จึงเห็นว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเอาอำนาจอธิปไตยในการสื่อสารกลับมาเป็นของคนไทย เราจะปล่อยให้คนต่างชาติเอาโซเชียลมีเดียมาทำร้ายคนไทยอีกหรือไม่ เราต้องคิด”
  • เงินทุน: เชื่อว่าแหล่งทุนมาจากต่างชาติและคนที่ไม่หวังดีต่อชาติ
  • นักการเมือง: เชื่อว่ามีนักการเมืองบางกลุ่มใช้กระแสเรื่องนี้เป็นเครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจ “เขาเล่นเรื่องนี้มานานแล้วเพื่อใช้ซื้อคะแนนนิยมและหาเสียง สร้างมวลชน พวกเราทราบกันดี เป้าหมายของเขาไม่ใช่การเป็นนายกฯ เป็นอะไรที่มากกว่านั้นแน่นอน” และ “มีนักการเมืองไปหลอก ไปฝังชิปให้เขาว่าชีวิตจะดีได้คือต้องเปลี่ยนแปลงการปกครอง นักการเมืองคนไหนไม่อยากพูด”

นอกจากนี้ชัยวุฒิยังร่ายฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจทางการเมืองใน 5 ทางเลือก หนึ่งในนั้นคือนายกฯ ลาออกตามข้อเสนอของผู้ชุมนุม ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นการ “ยอมแพ้”

“ถ้าท่านลาออก แสดงว่าท่านยอมรับแล้วว่าท่านจะให้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะเขาไม่ได้ร้องแค่ท่านลาออกเท่านั้นครับ เขาไม่ได้ทะเลาะกับหมา เขาทะเลาะกับเจ้าของหมา ท่านเข้าใจไหมครับ” ชัยวุฒิกล่าว

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. ก้าวไกล

คำอภิปรายเชิงเปรียบเปรยของ ส.ส. พปชร. รายนี้ ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา รีบตักเตือนไม่ให้นำคำพูดภายนอกมาใช้ในสภา ขณะที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วงผู้อภิปรายให้ถอนคำว่า “หมา”

“ถ้าเกิดคนฟังแล้วจะรู้เลยว่าท่านเปรียบเทียบนายกฯ เป็นหมา ขอให้ถอนคำว่าหมา เพื่อให้เกียรติท่านนายกฯ” วิโรจน์กล่าว

“สถาบันฯ ดีอยู่แล้ว จะไปยุ่งกับท่านทำไม”

ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เสนอโดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เมื่อ 18 พ.ย. 2563 เป็นอีกครั้งที่ชัยวุฒิใช้เวทีสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจขบวนการเคลื่อนไหวนอกสภา

เขาเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเป็นของ “คณะราษฎร” ไม่ใช่ของไอลอว์ และยังตอบโจทย์ฝ่ายค้าน เพราะ 1. จะยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย ป.ป.ช. คนที่มีคดีทุจริต คนที่หนีไปอยู่ต่างประเทศได้กลับบ้านหมด 2. ยกเลิก พ.ร.ป. ว่าด้วย กกต. ซึ่งขณะนี้ กกต. กำลังดำเนินคดีกับหัวหน้าและเลขาธิการอดีตพรรคอนาคตใหม่ ถ้ายกเลิกไปใครได้ประโยชน์ เพราะคดีเหล่านี้จะหยุดหมด 3. เสนอเปลี่ยนคุณสมบัติของนายกฯ โดยให้มาจาก ส.ส.เท่านั้น นายกฯ ที่พวกเราสนับสนุนคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านมาตามรัฐธรรมนูญ เสนอโดย พปชร. ถ้าท่านแก้ข้อนี้ พล.อ. ประยุทธ์พ้นจากนายกฯ ทันที ฝ่ายค้านจะมีโอกาสมาเป็นรัฐบาล ซึ่งสมประโยชน์หรือไม่ จึงไม่แปลกใจที่ฝ่ายค้านจะรับร่างของคณะราษฎร

ชัยวุฒิยังแสดงความคับข้องใจต่อข้อเสนอให้ยกเลิกการปฏิรูปประเทศว่าทำไปทำไม เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยเรียกร้อง เช่นเดียวกับคณะราษฎรที่เสนอให้ปฏิรูปสถาบันฯ

“เพื่ออะไรครับ สถาบันฯ ดีอยู่แล้ว จะไปยุ่งกับท่านทำไม มันย้อนแย้งกันไปหมด แก้แม้แต่หมวด 1 และหมวด 2 ท่านต้องการอะไร อำนาจบางอย่างไม่ได้มาจากรัฐธรรมนูญ แต่มาจากความรัก ความศรัทธาของประชาชน ดังนั้นท่านแก้รัฐธรรมนูญแบบไหน ก็แก้ตรงนี้ไม่ได้” ชัยวุฒิกล่าว

“การล้างสมองเด็ก ไม่ใช่แค่ต้องการล้มรัฐบาล”

ปิดท้ายที่การประชุมสภา วันที่ 2 ธ.ค. 2563 ชัยวุฒิตั้งกระทู้ถาม ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) สังกัด พปชร. โดยหวังให้เพื่อนร่วมพรรคได้ชี้แจงเรื่องการชุมนุมของนักเรียนชั้นมัธยมที่ใช้ชื่อว่า “นักเรียนเลว”

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

ในระหว่างดีเบตของ รมว.ศธ. กับ “นักเรียนเลว” เมื่อ 5 ก.ย. 2563 มีการพักเคารพธงชาติ ปรากฏว่าผู้ชุมนุมได้พร้อมใจกัน “ชู 3 นิ้วระหว่างร้องเพลงชาติ” ก่อนตะโกนว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ต่อหน้า รมว.ศธ.

เขาถามว่า รมว.ศธ. มีวิธีการรับมือกับกลุ่มพรรคการเมืองบางพรรคที่ถูกยุบพรรค แล้วเปลี่ยนเกมไปเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียนเลวอย่างไร โดยนายชัยวุฒิใช้คำว่า “ยุยงปลุกปั่น สร้างเครือข่ายล้างสมองนักเรียน เพื่อจะใช้เด็กเป็นเครื่องมือ” และ “การล้างสมองเด็ก ไม่ใช่แค่ต้องการล้มรัฐบาล แต่เขาต้องการล้มอะไรมากกว่านั้น ท่านก็ทราบ”

ในระหว่างการตั้งกระทู้ของชัยวุฒิ มี ส.ส. พรรคก้าวไกลลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะ ๆ และโต้เถียงกันไปมากับ “ส.ส. สายล่อเป้า” รายนี้

ส.ส. ชัยวุฒิยังอ้างด้วยว่า ผู้ปกครองเป็นห่วงปัญหาเรื่องชุดนักเรียนมาก “กลัวว่า ศธ. จะไปรับฟังข้อเสนอของนักเรียนเลวเลวเหล่านี้ แล้วเอามาแก้ไขนโยบายเรื่องชุดนักเรียน” และขอให้ ศธ. เพิ่มหลักสูตรเกี่ยวกับความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อไม่ให้เด็กถูกล้างสมอง ถูกยุยงปลุกปั่น เพราะบ้านเมืองจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อเด็กต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

สิงห์บุรี

สิงห์บุรี

ถิ่นวีรชนคนกล้า คู่หล้าพระนอน นามกระฉ่อนช่อนแม่ลา เทศกาลกินปลาประจำปี

Related Posts

Next Post

บทความ แนะนำ

No Content Available

Welcome Back!

Login to your account below

Create New Account!

Fill the forms below to register

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.